https://aio.panphol.com/assets/images/community/6236_8ac9bd.png

NER โชว์ผลงาน Q1/2568 กำไรโตต่อเนื่อง พร้อมอัปเดตแนวโน้มธุรกิจยางพารา

P/E 4.38 YIELD 8.22 ราคา 4.38 (0.00%)

โอเคครับ นี่คือสรุปเนื้อหาการประชุม Oppday ของ NER ประจำไตรมาส 1 ปี 2568 ตามโครงสร้างที่คุณกำหนดครับ

NER โชว์ผลงาน Q1/2568 กำไรโตต่อเนื่อง พร้อมอัปเดตแนวโน้มธุรกิจยางพารา

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

NER รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีกำลังการผลิตรวม 515,600 ตัน แยกเป็นผลิตภัณฑ์ยางแท่ง, ยางแผ่น, และยางผสม ปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 85-90%

ในส่วนของยอดขาย ไตรมาส 1 ปีนี้ มียอดขายรวม 127,000 ตัน ลดลง 9,000 ตัน หรือ 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (Q on Q) แต่เพิ่มขึ้น 12,470 ตัน หรือ 10.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year on Year)

บริษัทมีรายได้รวม 8,697 ล้านบาท ลดลง 236 ล้านบาท หรือ 2.64% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 2,157 ล้านบาท หรือ 32.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 926 ล้านบาท หรือ 10.61% เพิ่มขึ้นจาก 8.8% ในไตรมาส 4 ของปีก่อน

ค่าใช้จ่ายในการขายอยู่ที่ 119 ล้านบาท ลดลงจาก 122 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า ในขณะที่ค่าใช้จ่ายบริหารอยู่ที่ 47 ล้านบาท ลดลงจาก 59 ล้านบาท

EBITDA อยู่ที่ 825 ล้านบาท คิดเป็น 9.49% ของราคาขาย เพิ่มขึ้นจาก 562 ล้านบาท หรือ 6.29% ในไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า

ค่าใช้จ่ายทางการเงิน (ดอกเบี้ย) อยู่ที่ 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาทจากไตรมาส 4 เนื่องจากการออกหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาทเมื่อปลายปีที่แล้ว

กำไรสุทธิอยู่ที่ 609 ล้านบาท คิดเป็น 7% ของยอดขาย เพิ่มขึ้นจาก 359 ล้านบาท หรือ 4.04% ในไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า

กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.33 บาท เพิ่มขึ้นจาก 0.19 บาทในไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า

สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 19,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 259 ล้านบาทจากไตรมาส 4 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียน และลดลงในส่วนของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

หนี้สินลดลง และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น

ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 9.2% และผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 20.6%

หนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity) อยู่ที่ 1.17 เท่า หากคิดเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.11 เท่า

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทมุ่งเน้นการสร้างสินค้าที่ดี สร้างคู่ค้าที่ดี สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี และสร้างสังคมที่ดี

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือเรื่องของกำแพงภาษีที่จะเกิดขึ้นจากสหรัฐอเมริกา

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

บริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยการขายล่วงหน้า (Matching Order) เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขาย 500,000 ตัน และรายได้ 34,000 ล้านบาท

การลงทุนในต่างประเทศอาจมีการทบทวนเนื่องจากเรื่องภาษี

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่ นาทีที่ 25:50**
  1. **การปรับโมเดลการขายและการ Matching Order:**
    • **คำถาม:** จากการปรับโมเดลการขายจาก Matching Order 100% เป็นต่ำกว่า และราคายางที่ลดลงในช่วงก่อนหน้า จะทำให้มี Stock Loss เกิดขึ้นใน Q ต่อไปหรือไม่?
    • **คำตอบ:** ไม่มีการ Stock Loss เพราะบริษัท Matching ไว้หมดแล้ว
    • **คำถาม:** จากนี้ไป บริษัทจะกลับมาใช้กลยุทธ์ Matching Order 100% อย่างเดิมหรือไม่?
    • **คำตอบ:** ใช่ ตอนนี้ปรับมาเป็น 100% แล้ว
  2. **ยอดขายผลิตภัณฑ์แผ่นรอง:**
    • **คำถาม:** ขอทราบยอดขายของผลิตภัณฑ์แผ่นรองใน Q1 มีการเติบโตหรือไม่ และแนวโน้มที่เหลือของปีเป็นอย่างไร?
    • **คำตอบ:** ยอดขายยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ดีขึ้นพอสมควร จากเดิมเดือนละหลักแสน ตอนนี้ไตรมาสละประมาณหลักล้าน ถือว่าดีขึ้น
  3. **ผลกระทบจากราคายางลงในเดือนเมษายน:**
    • **คำถาม:** ในเดือนเมษายนที่ราคายางลงแรง จะทำให้ต้องมีบันทึก Stock Loss ในไตรมาส 2 หรือไม่? หรือใช้วิธี Matching ไม่ต้องบันทึก Gain Loss ของราคายาง?
    • **คำตอบ:** ไม่มีการ Gain Loss เพราะมีการขายล่วงหน้าไปหมดแล้ว
  4. **ราคาขายยางเฉลี่ย:**
    • **คำถาม:** ณ ปัจจุบัน ราคาขายยางเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละกี่บาท และคุณชูวิทย์มองว่าปีนี้ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่เท่าไหร่?
    • **คำตอบ:** ปัจจุบันซื้อขายราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 บาท และยังคงเป้าหมายราคาเฉลี่ยไว้ที่ 70 บาท
  5. **แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2:**
    • **คำถาม:** แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 เทียบ Year on Year, Q on Q เป็นอย่างไรบ้าง?
    • **คำตอบ:** ต้องรอผลประกอบการ แต่เป็นไปตามที่ประกาศในงบประมาณ
  6. **สัดส่วนการขายในประเทศและต่างประเทศ:**
    • **คำถาม:** ขอทราบแนวโน้มสัดส่วนการขายในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างไรในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้?
    • **คำตอบ:** สัดส่วนในไตรมาส 1 อยู่ที่ 30:70 คิดว่าทั้งปีจะอยู่แถวๆ นี้ ไม่น่าจะต่างจากนี้เยอะ
  7. **ลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้น:**
    • **คำถาม:** ลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นเยอะเพราะอะไร เป็นลูกค้าเจ้าไหน ในประเทศหรือต่างประเทศ?
    • **คำตอบ:** เกิดจากการขายในประเทศ ช่วงที่ขายใกล้ปิดงบ ทำให้ยังไม่ถึงดีลเก็บเงิน เลยติดค้างมาในงบดุล
  8. **ผลกระทบจากสถานการณ์ของทรัมป์:**
    • **คำถาม:** จากสถานการณ์ของทรัมป์ มีผลดีผลเสียอย่างไรกับ NER ถือเป็นการได้เปรียบหรือเสียเปรียบอย่างไร?
    • **คำตอบ:** เป็นเรื่องที่ทุกคนในโลกเจอเหมือนกัน คงยังไม่สามารถพูดได้ในตอนนี้ น่าจะต้องรอหลังจาก 90 วันแล้วว่าจะมีการปรับเรื่องอัตราภาษียังไง
  9. **ผลกระทบจากมูลค่า Inventory ณ Q1:**
    • **คำถาม:** ดูจากมูลค่า Inventory ณ Q1 ส่งผลอย่างไรต่อ Q2 ไหม เพราะราคายางลงค่อนข้างจะแรง?
    • **คำตอบ:** ไม่ได้ส่งผลอะไร เพราะ Q2 มีการ Matching Order เอาไว้หมดแล้ว
  10. **การจ่ายปันผลระหว่างกาล:**
    • **คำถาม:** บริษัทกำไรดีแบบนี้ ไม่ทราบจะมีจ่ายปันผลระหว่างกาลไหม?
    • **คำตอบ:** เงื่อนไขการจ่ายปันผลยังคงเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
  11. **ผลิตภัณฑ์ที่รองพื้น:**
    • **คำถาม:** ผลิตภัณฑ์ที่รองพื้นเป็นอย่างไร กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มไหน ในประเทศหรือต่างประเทศ?
    • **คำตอบ:** ยอดขายเริ่มดีขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ดีมากนัก กลุ่มลูกค้ายังเป็นกลุ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  12. **แผนรับมือ Worst Case และสภาพคล่อง:**
    • **คำถาม:** ใน Worst Case ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือ Recession, Depression บริษัทมีแผนรับมืออย่างไร? มีสภาพคล่องเพียงพอหรือไม่ และยังมีวงเงินที่ไม่ได้เบิกใช้กับธนาคารอีกเท่าไหร่?
    • **คำตอบ:** เป็นคนซื้อมาขายไป ซื้อมาผลิตแล้วขายออก ถ้าเกิด Worst Case การซื้อถูกขาย ขายถูกซื้อแพงขายแพงก็ยังจะคงอยู่ได้ สินค้าที่ผลิตเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตคือล้อยางรถยนต์ เราส่งสินค้าให้โรงงานล้อยางรถยนต์เป็นหลัก สภาพคล่องที่เพียงพอสามารถที่จะซื้อขายทุกวันได้เหมือนเดิม ส่วนวงเงินในธนาคารมีเยอะไม่ต้องห่วง
  13. **สัดส่วนลูกค้าในประเทศที่ผลิตยางรถยนต์ส่งออกไป US:**
    • **คำถาม:** ขอทราบสัดส่วนลูกค้าในประเทศที่เป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์ แล้วส่งออกไป US เป็นเท่าใด?
    • **คำตอบ:** ลูกค้าภายในประเทศส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ผลิตล้อรถยนต์เป็นหลัก ลูกค้าจีนที่มาตั้งโรงงานอยู่ในไทยทั้งหมด 6 โรงงานก็จะเป็นลูกค้าเราทั้งหมด ส่วนจะส่งไป US เท่าไหร่นั้นสัดส่วนไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจน แต่ที่คุยกับลูกค้าส่วนใหญ่จะส่งไปทางยุโรปและจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก
  14. **สรุปแผนงานปีนี้:**
    • **คำถาม:** สรุปแผนงานปีนี้ เรายังคงเป้าเดิมทุกอย่างไหม?
    • **คำตอบ:** ยังคงเป้าเดิมตามที่ยืนยันมาแล้ว เราขายของไว้ล่วงหน้าจนถึงเดือน 10 แล้ว เหลืออีกแค่ 2-3 เดือนก็จะปิดยอดได้ในปีนี้ ค่อนข้างมั่นใจ
  15. **ผลกระทบจากราคายางที่ลงช่วงที่ผ่านมา:**
    • **คำถาม:** ราคายางที่ลงช่วงที่ผ่านมาจะไปกระทบใน Q ไหน?
    • **คำตอบ:** ไม่ได้กระทบ เพราะขายเอาไว้หมดแล้ว
  16. **แผนเพิ่มกำลังการผลิตและ M&A:**
    • **คำถาม:** NER ยังคงมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตไหม? หากไม่เพิ่มกำลังการผลิต จะมีแผนการทำ M&A กิจการอื่นไหม?
    • **คำตอบ:** มีแผนในการสร้างโรงงานแห่งที่ 3 กำลังการผลิตประมาณ 320,000 ตัน แต่ปัจจุบันอาจมีการ Delay ออกไปบ้าง เพื่อรอฟังข่าวของอเมริกาว่าจะจัดการเรื่องภาษีระหว่างอเมริกา กับจีนยังไงบ้าง จัดการเรื่องภาษีระหว่างอเมริกากับไทยยังไงบ้าง น่าจะมีการประกาศอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ส่วนการทำ M&A กับธุรกิจอื่นกิจการอื่นยังไม่มีนโยบายทำอย่างนั้น
    • **คำถาม:** NER มีแผนจะซื้อหุ้นคืนไหม?
    • **คำตอบ:** ยังไม่มีแผนนั้น
  17. **ความมั่นใจในเป้าหมายที่ตั้งไว้:**
    • **คำถาม:** ผ่านมา 5 เดือนแล้ว ยังมั่นใจในเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ไหม?
    • **คำตอบ:** ค่อนข้างมั่นใจว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็น่าจะไม่ผิดพลาดอะไร
  18. **ผลกระทบหากลูกค้าจีนไม่สามารถส่งสินค้าไป US ได้:**
    • **คำถาม:** หากลูกค้าจีนที่เป็นลูกค้าของเราไม่สามารถส่งสินค้าไป US ได้เลย จะเกิดอะไรขึ้น แล้วจะมีสินค้าจากประเทศไหนที่มี Potential ส่งไปที่ US แทน และเรามีโอกาสส่งวัตถุดิบไปขายไหม?
    • **คำตอบ:** มีแน่นอน แต่จริงๆ แล้วถ้าบอกว่า US ไม่ส่งไม่รับสินค้าจากจีน หรือว่าโรงงานจีนที่อยู่ในเมืองไทย โอกาสที่เขาจะต้องไปหาสินค้าจากแหล่ง Supply ใหม่ค่อนข้างยาก อย่าลืมว่ายางพาราที่เป็นยางธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตล้อยางมันอยู่ในประเทศอาเซียนนี้ทั้งหมด ทุกๆ ประเทศมีเรื่องของภาษีกับอเมริกาทั้งหมด เพราะฉะนั้นแล้วเรามองว่าทุกๆ อย่างยังไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่สินค้าอื่นที่ว่าจะเป็น เนื่องจากสินค้ายางมันมีแค่ประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนแค่นั้น ที่มีเกิดขึ้นมาจริงๆ ก็คือประเทศทางแอฟริกาคือ โกดิโว ประเทศที่มีสินค้าที่มี Potential ที่จะส่งไป US แทนเรายังมองว่าหาได้ยาก
  19. **สรุปแผนงานปีนี้ (ซ้ำ):**
    • **คำถาม:** สรุปแผนงานปีนี้ เรายังคงเป้าเดิมทุกอย่างไหม?
    • **คำตอบ:** ก็ยังคงเป้าเดิมตามที่ยืนยันมา 2-3 ข้อที่ผ่านมา เรายังยืนยันเป้าเดิมตรงนั้น เพราะ 1 เราขายของไว้ล่วงหน้าจนถึงเดือน 10 แล้ว เรายังเหลืออีกแค่ 2-3 เดือนเราก็จะปิดยอดได้ในปีนี้แล้ว เรายังค่อนข้างมั่นใจถึงในช่วงที่ผ่านมาราคายางจะลงมาหรือว่าการหยุดกรีดก็ช่าง มันทำให้เราเอง แต่ระยะเวลาที่เหลืออีก 5-6 เดือนเนี่ยมันทำให้เราเองยังมีความสามารถแล้วก็มีระยะเวลาในการที่จะขายของให้ได้ตามเป้าที่เราประกาศไว้
  20. **การรักษาอัตราการจ่ายปันผล:**
    • **คำถาม:** ขอให้ NER รักษาอัตราการจ่ายปันผล เพราะว่าผู้ถือหุ้นที่เป็นหน้าเดิมๆ ก็อาศัยเงินส่วนนี้ในการยังชีพ
    • **คำตอบ:** ยืนยันว่าเรายัง เรายังเรายัง มีนโยบายเดิมในการจ่ายปันผล คือไม่ใช่พี่คนเดียวที่ใช้เงินส่วนนี้ในการยังชีพครับ พวกผมก็เหมือนกัน
  21. **โรงงานผลิตยางบุรีรัมย์:**
    • **คำถาม:** โรงงานผลิตยางบุรีรัมย์ Delay หมายถึงอาจจะไม่เสร็จตามแผนในเดือนพฤษภาคมปี 69 ใช่ไหมคะ เลทไปอีกประมาณกี่เดือนคะ ถ้าบอกว่าดูสงครามการค้าสหรัฐ?
    • **คำตอบ:** เราเองจะมีการดูดูในเรื่องของหลัง จาก 90 วันหรือว่าหลังจากที่ประเทศไทยและประเทศจีนเจรจากับอเมริกาให้เสร็จก่อน ถึงจะมีการก่อสร้างโรงงาน แต่ว่าสิ่งที่เราเตรียมไว้ก็คือเรื่องของการปรับที่ดินเราปรับเรียบร้อยแล้วเงินทุนเรามีพร้อมแล้ว เพราะฉะนั้นการสร้างโรงงานจะเสร็จภายในไม่เกิน 8 เดือนถึง 1 ปีแค่นั้น
  22. **ของเสียจากการผลิตยางพาราเป็นสารต้านมะเร็ง:**
    • **คำถาม:** เร็วๆ นี้มีข่าวว่าของเสียจากการผลิตยางพาราอาจมีคุณสมบัติที่นำไปพัฒนาเป็นสารต้านมะเร็งได้ จะมีผลต่อ NER ไหม?
    • **คำตอบ:** ตรงนี้เป็นเรื่องที่ผมเองยังไม่ได้ยินเลยครับพี่ ถ้ามันสามารถทำได้อย่างนั้นจริงก็ถือว่าเป็นโชคดีของอุตสาหกรรมยางของเราครับ
  23. **ปัจจัยเสี่ยงในปีนี้:**
    • **คำถาม:** ในปีนี้ NER มีปัจจัยเสี่ยงอะไรให้กังวลบ้างไหมครับ?
    • **คำตอบ:** ปัจจัยเสี่ยงก็ยังเป็นเรื่องของกำแพงภาษีที่จะเกิดขึ้นมาโดยอเมริกานะครับ อย่างอื่นเราค่อนข้างไม่กังวลเท่าไหร่ ในปีที่แล้วเรากังวลในเรื่องของปริมาณผลผลิตที่จะมีกระทบจากภาวะแล้ง แต่ในปีนี้ฝนดีแล้วนะครับเราก็ไม่ได้มีมีปัญหาในเรื่องนั้นนะครับ ก็คงมีปัจจัยเดียว

โดยสรุป NER ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ บริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด