บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday III: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 และทิศทางธุรกิจโลจิสติกส์
P/E 8.11 YIELD 7.65 ราคา 4.26 (0.00%)
สรุป Oppday III: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 และทิศทางธุรกิจโลจิสติกส์
สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้ทางบริษัท ทริปเปิ้ลไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) จะมาให้ข้อมูลผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยจะแบ่งเป็น 3 หัวข้อหลักๆ คือ ภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์, รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 และภาพธุรกิจในครึ่งปีหลัง
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ทริปเปิ้ลไอได้มีการปรับ Business Model เล็กน้อย โดยจากเดิมที่มี 4 กลุ่มธุรกิจ ปัจจุบันเหลือ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
- Airfreight Business (การขนส่งสินค้าทางอากาศ)
- Chemical Logistics Business
- Logistics Management
กลุ่มธุรกิจ Logistics Management เป็นการรวม Logistics Management กับ Sea Freight and Inland Transportation เข้าด้วยกัน เพื่อให้บริการแก่ผู้ส่งออกและนำเข้ารายย่อยสำหรับสินค้าทั่วไป
Airfreight Business
Airfreight แบ่งเป็น 3 ธุรกิจย่อย ได้แก่
- General Sales Agent (GSA): ทำ GSA ผ่านตัว ANI โดยรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไร (Inorganic)
- ธุรกิจ Air Wholesale Freight Forwarder (Organic): ปริมาณ (Volume) หลักมาจากธุรกิจนี้ประมาณ 80-90%
- Air Cargo Terminal และ Ground Handling Service: แบ่งเป็นทั้ง Organic และ Inorganic
ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา Volume ของธุรกิจ Airfreight หลักลดลง 33% YoY และ 48% QoQ โดยเฉพาะสินค้า Transit ลดลงประมาณ 100 ตัน สาเหตุหลักเนื่องจากช่วงตรุษจีนปีนี้ยาวนานกว่าปกติ และลูกค้าเร่งส่งออกไปในช่วง Q4 ของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในไตรมาส 2 จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่าไตรมาส 1 ทั้งนี้ Asia (จีนและอาเซียน) เป็นตลาดหลักที่ส่งออกไป ประมาณ 45% รองลงมาคือยุโรป 22%, Middle East 19%, และ USA 12%
สำหรับ Air Cargo Terminal, Volume ผ่านคลังในไตรมาส 1 เติบโตขึ้น 70% YoY และ Flat QoQ สาเหตุหลักมาจากการย้ายฐานการบินของ AirAsia X มาที่ดอนเมือง และการเปิดให้บริการ Multi-Modal Warehouse ที่สุวรรณภูมิ และ AirPort Truck Link ที่ช่วยขนส่งสินค้าระหว่างสนามบิน
Chemical Logistics Business
ให้บริการทั้ง International Transportation (Airfreight, Sea freight, Cross Border) และ Warehouse Distribution, DG Packaging โดยมี Inorganic ส่วนคือ DG Pack Singapore ให้บริการ DG Packaging สำหรับขนส่งสินค้าทางอากาศ
Logistics Management Business
ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Sea freight, Airfreight, Cross Border) และ Shipping Line Agency ผ่านการ Joint Venture กับทาง SeaCair Line รวมถึง Wholesale Sea Freight Forwarder (Joint Venture กับ HFW Worldwide)
ทางด้าน Logistics ภายในประเทศ ให้บริการคลังสินค้า, Distribution, Fulfillment รวมถึง Inorganic ที่ให้บริการเกี่ยวกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บริษัทมีเป้าหมายที่จะใช้ Synergy 360 องศา โดยใช้จุดแข็งทั้ง Inorganic และ Organic เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้การลงทุนในรูปแบบ Joint Venture ช่วยให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงหลักที่บริษัทกำลังเผชิญคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากสงครามและภาษีนำเข้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการขนส่งสินค้า
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มรายได้, ลดค่าใช้จ่าย และควบคุมต้นทุน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ โดยจะเน้นการ Synergy ระหว่างกลุ่มธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ๆ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
บริษัทมองว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาค โดยจะเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม นาทีที่ 43:16]
-
อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง?
จริงๆ จะตอบว่าเป็นจุดต่ำสุด ผมอาจจะตอบลำบากนะครับ ผมอาจจะเป็นเรื่องของราคามากกว่า เพราะหลายคนมาถามว่า ราคาค่าระวางมันต่ำสุดมั้ย จริงๆ ตอนนี้คือมันเป็นซีซั่นอลมันลงมาช่วงต่ำนะครับ แต่เราช่วงราคามันต่ำมากจนเกิด ก่อนใคร หรือมันช่วงโควิดที่ราคาขึ้นไปสูงมากนะครับ
ณ ปัจจุบันเรียกว่า ราคาค่าระวางก็ จะมีการ manage นะครับ ว่าถ้าราคาต่ำสุดก็จะไม่ต่ำจะดินจนทุกคนมีปัญหา ครับจะมีการ manage แต่ตอนนี้ราคาเริ่มเข้าต่ำ มีการ manageก็มีในช่วงที่ผ่านมาทุกคนกังวลเรื่อง อาลีทำให้มีการชะลอการขนส่งนะครับ ช่วงเดือน 4 จะเห็นภาพได้ชัดตอนนี้พอพอ มาเริ่มคลายตัวพวกตอนนี้อย่างบางเทรดถ้าทราบว่ามันจะเริ่มขึ้นมาก็มีการเนี่ยทั้งทั้งเราเองกับทั้งเราก็ต้องพยายามดูแลลูกค้าทั้งดู นะครับ
แต่ส่วนเรื่องที่ว่าการส่งออกนำเข้าว่าจะมันกลับคืนหรือเปล่านะครับ อันนี้ตอบยาก เพราะว่าภาพรวมตรงนี้เนี่ย คือในภาพรวมจากวิกฤตที่ในเรื่องของ เอ่อที่ทุกคนทราบเรื่องของ
เอ่อที่ทุกคนทราบเรื่องของ escalate tariffเนี่ย ก็ทุกคนเห็นว่าถึง แม้มันจะคลายตัวลง แต่เนื่องจากต้นทุนภาพรวมมันสูงขึ้น tariffถึงแม้จะลดลงมินิมัมมันก็คือ 10% เลยทำให้ภาพรวมของ spending ของทั่วโลก เขาก็ forecast ว่ามันจะทำให้ภาพรวมธุรกิจเนี่ยมันลดลงไปภาพมันไทยคืออะไรครับ มันก็จะมีค่าใช้จ่าย ทําให้ volume ปริมาณขนส่งลดน้อยไป ถ้ามันน้อยไปเนี่ยก็ต้องบอกว่าใน Logistics เนี่ยคือเรามีองค์กรอีกมากมายนะครับ ที่ว่าเห็นว่าเราเนื่องจากเรามี Ecosystem หลาย อย่างโดยเฉพาะแอร์เนี่ยเราจะไม่ จะ Rigid อยู่เฉพาะเมืองไทยถ้าเราทําเฉพาะ เมืองไทยจริงๆเราจะ เทียบกับ growth เมืองไทยทุกคนก็ทราบว่าส่งนำเข้าเรามีบางช่วงจะดีเพราะบางช่วงเนี่ย มันอาจจะเริ่มลดลง แล้วปีทั้งปีเนี่ย ค่าเงินว่ารัฐบาลก็ค่าว่าส่งนำเข้ามันจะไม่ เต็มที่ก็ 5% นะครับ หรือคืออาจจะ 3% ด้วยนะครับ ถามว่าถ้าเราพึ่งเฉพาะเมืองไทยเราก็เหนื่อย ที่ผ่านมา go ของเรา เช่น transit เรามาจากประเทศอื่น มาจาก จีนมาจากพม่ารวม ทั้งมี เอ่อของ ai AIเนี่ยบริษัทลูกของเราจริงๆเนี่ยมีประเทศไทย เนี่ยส่วน ประมาณ 15% เองครับที่เหลือครับ ที่ได้ เรียนเมืองจีน ก็ ที่เวียดนาม HongKongเนี่ยส่วนนี้ก็ 50% แล้วก็ปีนี้ขยายไปที่ญี่ปุ่นแล้วก็มี อินเดียก็เป็นประเทศที่เราเรา จะได้ ไปลงทุน station ที่ โลเรียกว่าเราก็ต้อง หาทางไปขยายในว่าจะเป็นเรื่องแบบ vertical แล้วก็เป็น horizontal นะครับเพื่อที่จะ ผลัก ให้มันโตขึ้นนะครับ เพราะว่าตัวโลจิสติกส์เนี่ยในภาพ ข้อดีคือบางทีบางช่วงมันก็จะดี ในบางประเทศไม่ดีในบางโซนนะครับอย่าง ตอนเนี้ยทุกคนก็กังวลว่าทางอเมริกาอาจ จะไม่ดีเราก็เริ่มมองหาประเทศอื่นๆอย่าง ตอนนี้โกของ ที่ไปเราไปดูเองว่าจริงๆ อเมริกาเองเราอาจจะกระทบไม่เยอะนะครับเพราะว่าเรา พึ่งพิงไม่เยอะไม่เหมือน เมื่อ กี้ตัวเลขคุณ ณัฐสิทธิ์ก็แชร์ให้เห็นว่า ในโฮเซลของเราหรือ กลุ่ม ai จริงๆแล้วก็มีอเมริกาแต่ไม่เยอะ เราไป เยอะไปทางฝั่งเอเชียแล้วก็ยุโรปนะครับ -
ช่วงที่เหลือของปีนี้เนี่ย ทางเรามีการลงทุนอะไรเพิ่มเติมอีกไหมครับ?
ก็ถ้าพูดถึงการลงทุนนะครับก็จริงจังเนี่ยเอ่อ strategy ของเราที่หลังเข้าตลาดก็คือเน้นรูปของ fee and baseเห็นว่าเราได้ทำหลายๆ Project ที่ success แล้วก็เอามาเป็นรูปแบบอย่าง ai aiนี่ก็เรียกว่ามีแน่นอนก็จะต้องตออีกเรานี้ก็ไปตั้งสำนักงานก็เลยไม่ได้ไปเรียนแล้วนี้จริงๆก็ส่วน มีการคุยอยู่มีเอ่อMA ในไปล มีทั้ง Mega Project แล้วซึ่งMega Projectเนื่องจากว่า พอเกิดไอ้ตัวของเอ่อตัวtariffทางอเมริกาเนี่ยแล้ว ตัวTargetเนี่ยเขาก็อยู่ในโซน นั้น นั้นด้วยนะครับก็เลยมีการชะลอการพูดคุยนะครับ แล้วก็เรื่องราคาด้วยพอ มีโปรเจ็กลูกเล็กที่คุยอยู่ว่าโปรเจ็กลูกเล็กเนี่ยที่ ทางAIจะทำเนี่ยคิดว่าภายในไม่เกินไตรมาสหน้านะครับก็จะsuccessก็เรียกว่าจะเขามีขึ้นปีหลังนะครับนอกเหนือจากที่เปิดstationญี่ปุ่นถึง มาทำเมื่อกี้ได้เรียนไปแล้วนะครับ ตัวที่ไปเองก็มีโปรเจ็คเมื่อสักครู่ก็ได้ชี้แจงว่าตัว Cargo Airlineนะครับตอนนี้เป็นโปรเจ็คที่ ใหญ่และมันต้องใช้เวลานะครับยิ่งรวิกับTargetที่ตัดสินมาเนี่ยเราก็เลยชะลอเพราะ ว่ามันมีเรื่องราคาเดียวกันเนี่ยก็เราเลยมองว่า เป็นโชคดีนะครับเพราะถ้าเรารีบสรุปซื้อไปเมื่อ ปีที่แล้วหรือตอนเนี้ยนะครับก็เรียกว่ามัน เป็นขาลง ก็มีการทบทวนเรื่องราคาที่เข้าไปนะครับซึ่ง Projectที่เราไปลงทุนไม่ว่าจะเป็นเอ่อที่ได้เรียนว่าส่วนใหญ่Airline เนี่ยมันเป็นsizeที่ว่าลงทุน 2-300 ถึง ถึงประมาณ 500 นะครับ ก็ยังพูดคุยอยู่ก็คงชัดเจนก็จะครึ่งปีหลังนะครับ แล้วก็มีตัวA&เล็กๆที่คุยคุยอยู่จริงพวกA&Aเนี่ยเราคุยมาตั้งแต่ ปี 2 ปี และ แต่ที่ผ่านมาที่มันไม่ สรุปก็อย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องราคาจริงๆเพราะว่า Logistics เนี่ยส่งเมื่อปีก่อนเนี่ยก็เรียกว่าเนื่องจากมัน ราคาเข้าแพงมากทุกคนก็ยังคัดราคาที่สูงนะครับตอนนี้เบื้องต้นเนี่ยเราก็ต้องทบทวนการเข้าไปทำแต่ก็สรุป เราก็คงมีแผนที่จะเติบโตแน่ๆครับ ทั้งในส่วนของการทั่วโลกนะครับ และในส่วนของราวกำลังร่วมกับตัวของ ก้า นะครับ ก็อย่างที่ได้เรียนจากความสัมพันธ์ที่ 3 ชัดเจนครับก็จะเป็นตัวที่เขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยนะครับ
-
ทิศทางในไตรมาส 2 แล้วก็ครึ่งปีหลังเนี่ย มองว่าอย่างไรครับ แล้วก็มีการ จะมีการปรับเป้ารายได้หรือกำไรไหมครับเนื่องมาจากว่าเอ่อผลกระทบจากสงครามแล้วก็ ภาษีสงครามครับ?
เมื่อสักครู่มีได้ส่งไปบ้างแล้วนะครับแล้วก็ทั้งเราก็ยังไปได้ตรง จริงๆแล้วเนี่ยเป้าที่เราเอ่อเมื่อสักครู่ได้เขียนบอกคือ 15 ตอนที่เราคุยต้นปีเนี่ยเรา บอกว่า 15 จาก 20 นะครับ แล้วก็บางส่วน เราจะเติบโตไปอีก 20% ด้วยซ้ำนะครับ และพอเอ่อ พอ พอต้นปีปุ๊บก็จะเจอเรื่องของวิกฤตต่างๆที่ทุกคนทราบอยู่แล้วโดยเฉพาะที่ผ่านมาตัวที่ทุกคนกำลังถามอยู่ว่าตัวเอ่อ tariffเนี่ยทบขนาดไหนทุกคนยังให้คำตอบ ไม่ได้ชัดเจนนะครับแล้วก็เมืองไทยที่ได้บอกว่าที่แน่ๆนะครับก็ ทุกคนต้องเร่งภายใน 3 เดือนส่งออกและทบทวนว่ามันจะได้ยังไง แต่งไงมันก็ต้องมีมินิมัม 10% อะไรที่มัน เอ่อเดิมๆเคยจากเท่าไรมินิมัมรวมทั้ง เอ่อลด คดีนะครับ ก็ทางเรายังคงไม่ได้เป้าหมายนะครับเรายังมี เอ่อ Positive เอ่อได้อยู่ว่า อย่าง Asia เบสไม่ว่าทางตัวเราเองทางด้าน AIรวมทั้งหลายๆอย่างในฝั่งตพที่เราขยายเนี่ย เรานั้นน่าจะสามารถให้เราเติบโตไปอย่างเป้าที่เราตั้งไว้อยู่นะครับ ก็ในส่วนของผมหน้าจะตอบคำถาม ครอบถ้วนนะครับ เวลาจะหมดวันนี้นะคุณ ณัฐสิทธิ์ให้สรุป นะครับโอเคครับงั้น เวลาจะหมดแล้วนะครับงั้นทางเราทั้งผมนะครับ เอ่อนักลงทุนทั้งหลายก็ทางคุณรัตน์ครับ CFO ขอบคุณทุกท่านไปก่อนนะครับ
โดยสรุป, ทริปเปิ้ลไอ โลจิสติกส์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการ Synergy ภายในองค์กร, การขยายฐานลูกค้า, การลงทุนในเทคโนโลยี, และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน