บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

AOT กำไรสุทธิ 2QFY68 ต่ำกว่าคาด INVX คงคำแนะนำ NEUTRAL ราคาเป้าหมาย 47 บาท

2QFY68 กำไรต่ำกว่าคาด

AOT รายงานกำไรสุทธิ 2QFY68 ที่ 5.1 พันลบ. ลดลง 13% YoY และ 5% QoQ ต่ำกว่าที่ INVX คาด 11% และต่ำกว่าตลาดคาด 14% สาเหตุหลักจากรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลงจากการปรับปรุงค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (MG) ครั้งเดียว INVX คงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AOT ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 47 บาท/หุ้น

รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลง เกิดจากการปรับปรุงค่า MG ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวของสัมปทานร้านค้าปลอดอากรและพื้นที่ค้าปลีกที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับกลุ่มคิง เพาเวอร์ ที่มีการจ่ายเกินในอดีตช่วงเปิด SAT-1 การปรับปรุงทั้งหมดมีจำนวน 802 ลบ. หากไม่รวมรายการนี้ กำไรของ AOT จะอยู่ที่ 5.7 พันลบ. ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 7% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่ INVX และตลาดคาด

INVX มองว่าไตรมาสนี้เป็นไฮซีซั่นที่อ่อนแอ จาก: 1) การเติบโตที่ช้าลงของผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2) รายได้ค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ลดลงหลังการขอคืนพื้นที่ และ 3) ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น

ข้อสังเกตสำคัญ

AOT ไม่ได้มีการคืนค่า MG ที่จ่ายเกินจำนวน 802 ลบ. เป็นเงินสด แต่กลุ่มคิง เพาเวอร์ ได้นำจำนวนนี้มาหักกับค่าปรับรายเดือนจากการขอเลื่อนชำระค่า MG ในช่วงเดือน ส.ค. 2567 ถึง เม.ย. 2568 และค่า MG เดือน พ.ค. ที่ต้องชำระตามปกติบางส่วน ทำให้ INVX มองว่ายังต้องติดตามเรื่องความสม่ำเสมอของการชำระค่า MG จากผู้รับสัมปทานในเดือนต่อๆ ไป

INVX คาดว่ากำไร 3QFY68 (เม.ย.-มิ.ย. 2568) ของ AOT จะลดลง YoY และ QoQ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากตลาดจีนที่อ่อนแอและผลกระทบจากแผ่นดินไหว สำหรับปี FY2568 INVX คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศของ AOT ที่ 71.2 ล้านคน ลดลง 2% YoY และคิดเป็น 85% ของระดับก่อนเกิด COVID-19

สรุป

INVX คงประมาณการกำไรปกติปี FY2568 ลดลง 8% มาอยู่ที่ 1.8 หมื่นลบ. ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 47 บาท/หุ้น (WACC ที่ 7.9%, อัตราการเติบโตระยะยาวที่ 1.5%) มูลค่าที่ประเมินได้สะท้อนถึงกรณีที่กลุ่มคิง เพาเวอร์ ไม่สามารถจ่ายค่า MC ที่สูงภายใต้สัมปทานปัจจุบันได้ และรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ของ AOT จะปรับลดลง