บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SCGP กำไรวูบ! ขาดทุนไตรมาส 4 ปี 67 แม้รายได้รวมทั้งปีโต
P/E 24.17 YIELD 3.48 ราคา 15.80 (0.00%)
ไฮไลท์: ผลประกอบการ SCGP ไตรมาส 4/67
SCGP เจอมรสุมไตรมาส 4 ปี 67 ทั้งเศรษฐกิจจีนชะลอ, แข่งขันสูง, ต้นทุนพุ่ง, และดีมานด์ลด โดยเฉพาะธุรกิจเยื่อกระดาษที่หนักสุด แม้ตลาดบรรจุภัณฑ์อาเซียนยังโต แต่ผลงาน SCGP กลับสวนทาง รายได้รวมลดลง 2% เทียบปีก่อน และ 6% เทียบไตรมาสก่อน ทำให้ขาดทุน 57 ล้านบาท แม้ทั้งปี 67 รายได้โต 3% แต่กำไรสุทธิลด 30%
เจาะลึกผลประกอบการ SCGP ปี 67
ไตรมาส 4/67 SCGP มีรายได้ 31,231 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เหตุหลักคือยอดขายเยื่อเคมีและกระดาษลด โดยธุรกิจเยื่อกระดาษรายได้ลดฮวบ 11% เทียบปีก่อน และ 19% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและดีมานด์ยุโรปลด แม้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังโตเล็กน้อย แต่ EBITDA รวมก็ลด 35% เทียบปีก่อน และ 19% เทียบไตรมาสก่อน ทำให้ขาดทุนสุทธิ 57 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรได้ 1,218 ล้านบาท ภาพรวมปี 67 มีรายได้ 132,784 ล้านบาท เพิ่ม 3% จากปีก่อน แต่ EBITDA ลด 9% กำไรสุทธิลด 30% เหลือ 3,699 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 3% ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบสูงและค่าเงินผันผวน
อนาคตและโอกาสลงทุน SCGP
SCGP วางแผนเน้นเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ขยายตลาด แม้ไตรมาส 4 เจอแรงกดดัน แต่คาดตลาดบรรจุภัณฑ์ยังโต โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทจะพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ ลงทุนเทคโนโลยีเพิ่มขีดแข่งขัน รวมถึงรักษาเสถียรภาพวัตถุดิบและจัดการพลังงาน โดยตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 SCGP ยังต้องเจอความเสี่ยงจากราคาวัตถุดิบผันผวน ค่าเงินผันผวน และการแข่งขันในตลาด จึงต้องดำเนินงานอย่างระมัดระวัง บริษัทประกาศจ่ายปันผลปี 67 หุ้นละ 0.55 บาท โดยจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.25 บาท และจะจ่ายงวดสุดท้าย 0.30 บาท ในเดือนเมษายน 2568
การวิเคราะห์ SCGP เป็นโอกาสลงทุนต้องพิจารณาให้รอบด้าน แม้ราคาหุ้นลดลงต่อเนื่อง อาจเป็นโอกาสลงทุนระยะยาวได้ P/E อยู่ที่ 14.07 และ P/BV ที่ 0.91 สะท้อนว่าหุ้นราคาต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี YIELD อยู่ที่ 3.37% น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปันผล แต่ต้องระวังอัตรากำไรสุทธิที่ 3% ถือว่าต่ำ และ D/E ที่ 1.0 แสดงว่ามีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ และหนี้สินสุทธิเพิ่มขึ้น การลงทุนใน SCGP อาจเหมาะกับนักลงทุนที่มองการเติบโตระยะยาวและรับความเสี่ยงได้ มากกว่านักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนระยะสั้น