https://aio.panphol.com/assets/images/community/5510_ba9cd8.png

เจาะลึกผลประกอบการ YONG Q1/68: โอกาสและความท้าทายในตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว

P/E 22.62 YIELD 8.22 ราคา 0.73 (0.00%)

เจาะลึกผลประกอบการ YONG Q1/68: โอกาสและความท้าทายในตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว

สวัสดีครับ ผมสรรเพชร เสด็จธกร กรรมการผู้จัดการบริษัท ยงคอนกรีต จำกัด มหาชน วันนี้ผมมาพร้อมกับคุณปฏิเวธ ซึ่งเป็น CFO ของบริษัท จะมานำเสนอผลประกอบการใน Q1 ที่ผ่านมา ปี พ.ศ. 2568 ในภาพรวมเราจะมีการพูดถึงภาพรวมของบริษัท ภาพเศรษฐกิจ ด้าน Financial performance ของเรา และกลุ่มโปรเจ็กต์ต่างๆ รวมถึงช่วง Q&A ให้ท่านผู้ชมสอบถามเข้ามาครับ

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในภาพรวมของธุรกิจบริษัท เป็นธุรกิจด้าน Precast Concrete มีสินค้าหลากหลายเพื่อตอบโจทย์องค์กรต่างๆ ได้ครบวงจร มีบ้านสำเร็จรูป Precast Concrete, แผ่นพื้น, แผ่นพื้นสามขา, ท่อคอนกรีต, เสาเข็ม, เสาไฟฟ้า, รั้วสำเร็จรูป, คานเสาสำเร็จรูป และมี Plant คอนกรีตที่ตั้งอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคกลางและภาคตะวันออกครับ

  • ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป: มีคานเสา, รั้วสำเร็จรูป (สามารถทำเป็นเขื่อนและติดตั้งรั้วสำเร็จรูปด้านบนได้), ท่อสำเร็จรูป (ทำเป็นกำแพงกันดินในโครงการหมู่บ้านในกรุงเทพฯ)
  • คอนกรีตผสมเสร็จ: มี Plant อยู่หลายจังหวัด เช่น กาญจนบุรี, นครปฐม, ชลบุรี, ระยอง และมี Plant Mobile สำหรับบริการลูกค้าโครงการ
  • เสาเข็ม: มีเสาเข็มขายพร้อมตอก ทั้งเข็มตอกปั้นจั่นและเข็มไมโครไพล์ มีเสาเข็มหลายแบบ เช่น เข็มเหลี่ยม, เข็มไอ

สินค้านอกจากขายแล้วยังมีบริการพร้อมติดตั้ง เช่น รั้วสำเร็จรูป บางโครงการให้เราไปติดตั้งให้ครับ หน่วยงานที่ใช้บริการ เช่น หน่วยงานวัดโบสถ์ที่ซื้อคานเสาเราไปติดตั้งเอง ซึ่งเราสามารถร่วมกันออกแบบและนำไปติดตั้ง ทำให้การติดตั้งแข็งแรงและรวดเร็ว

เรายังมีธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ยงคอนกรีต จำกัด มหาชน มีปูนผง, รถเครน, รถโม่ปูน, รถเทรลเลอร์ สำหรับบริการบริษัทแม่และลูกค้าภายนอก เพื่อให้เราควบคุมงานบริการได้ตรงเวลาครับ บริษัทแม่ของเราตั้งอยู่ที่กาญจนบุรี อำเภอท่าม่วง แต่มี Plant และโรงงานกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อดูแลและบริการลูกค้าได้ทั่วถึง

Utilize ของ Cap ของเรา เนื่องจาก Quater 1 เป็น Quater ที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว เกิดจากหลายส่วน เช่น ภาวะการชะลอการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอลงไปส่วนมากครับ

  • เสาเข็ม: ใช้กำลังผลิต 79-80% ยังหาลูกค้าใหม่ๆ มาได้เสริม แต่การแข่งขันด้านราคาเกิดขึ้น
  • รั้วสำเร็จรูป: โครงการใหม่ๆ ไม่ค่อยได้เปิดขึ้น ทำให้รั้วสำเร็จรูปชะลอลง
  • เสาไฟฟ้า: ใช้วิธีการเปิดประมูลเป็นล็อตๆ ใช้กำลังผลิต 11-26%
  • Precast Concrete: 12-15% เนื่องจากการชะลอของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
  • แผ่นพื้นสำเร็จรูป: 43-62%
  • ผลิตภัณฑ์อื่นๆ: 53-80%

รวมของกลุ่มคอนกรีต Product ใช้กำลังผลิต 49-50% ส่วนคอนกรีตผสมเสร็จ 19-20% ปัจจุบันเรามี Plant เพิ่มที่ระยอง ที่บ้านค่าย และที่แก่งเซียน เพื่อรองรับโปรเจ็กต์ใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่ Q2 เป็นต้นไปครับ

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

เราแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นผู้รับเหมาและลูกค้าทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มโครงการที่มาซื้อสินค้าเราไปและให้เราติดตั้ง บางส่วนก็นำไปติดตั้งเอง เช่น Central, Ritta, VSK, ชิโนไทย, ปาโก้

  • กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์: ประมาณ 36% เช่น AP, QH, พฤกษา, เสนา, Noble เป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ซื้อสินค้าเราไป บางส่วนให้เราติดตั้งให้ บางส่วนนำไปติดตั้งเอง
  • โครงการภาครัฐ: เช่น การไฟฟ้า, กระทรวงสาธารณสุข, การไฟฟ้าภูมิภาค, กรมชลประทาน, กรมทางหลวง
  • กลุ่มนักลงทุนต่างชาติในนิคมอุตสาหกรรม: หลังจากตั้ง Plant ที่มาบข่า ระยอง ทำให้มีกลุ่มโรงงานในนิคม WHA เข้ามาซื้อคอนกรีตของเรามากขึ้น

ทำให้งานคอนกรีตผสมเสร็จเราเริ่มมีงานจากกลุ่มนิคมเข้ามามากขึ้น ตามที่เราวางกลยุทธ์ไว้ว่าในส่วนอสังหาฯ ที่ชะลอ เราก็จะไปในกลุ่มโรงงานมากขึ้นครับ ในเรื่องการใช้พลังงาน เรามีการแท็กการประหยัดพลังงานในกลุ่มโรงงานทั้ง 3 โรง โดยเฉลี่ยแล้วประหยัดไปได้ประมาณ 48% ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เราลงทุนด้าน Solar Cell มาประมาณ 3 ปีแล้ว ปัจจุบันคืนทุนหมดแล้ว และหลังจากนี้ไปอีก 20 กว่าปี ก็จะเป็นเรื่องของการที่เราได้ประหยัดพลังงานอย่างเต็มที่ครับ

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ตลาดที่อยู่อาศัยใน 2 เดือนแรกปี พ.ศ. 2568 ใน Q1 มีการหดตัว การโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 38,000 กว่าหน่วย ลดลง 13% เทียบกับปีที่แล้ว มูลค่าลดลงประมาณ 14.7% การลดลงเกิดขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑลลดลงไป 14.6% และมูลค่าลดลงไป 16.1% ภาคกลางมีการลดมากที่สุด จำนวน 21% และมูลค่าลดลง 24.8%

อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น สภาพหนี้สินของครัวเรือนค่อนข้างสูง และสถาบันการเงินไม่ชะลอการปล่อยสินเชื่อ แม้ระยะหลังมารัฐบาลได้มีการลดอัตราดอกเบี้ย กนง. ลงไปอีก 0.25% และมีเรื่อง LTV ได้มีการปลด LTV อีก 1 ปี และมีการสนับสนุนในเรื่องการโอนอสังหาริมทรัพย์ให้มาเป็น 0.01% ก็ถือว่าเป็นตัวที่จะช่วยกระตุ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดที่ผ่านมาคือเรื่องตึก สตง. ก็ทำให้บรรยากาศแผ่นดินไหว ทำให้บรรยากาศของความมั่นใจในการซื้อบ้านต่างๆ หดตัวหรือชะลอตัวไปครับ

ในลักษณะแนวราบ จำนวน Unit ที่ขายได้ก็ลดลงไปประมาณ 15.6% และมูลค่าลดไปประมาณ 16% คอนโดมิเนียมลดไป 7% และมูลค่าลดลงไปประมาณ 9% ปัจจุบันตลาดก็ไปโตเป็นลักษณะบ้านมือสองซะมากกว่าครับ

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

การคาดการณ์ โดยกรณีพื้นฐาน คาดว่าถึงสิ้นปีนี้น่าจะบวกประมาณ 1% มูลค่าประมาณ 1.4% โดยที่ตั้งสมมติฐานว่า GDP เฉลี่ยที่ 2.8% ก็ต้องดูว่ามีเหตุปัจจัยอะไรที่จะมากระตุ้นให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น เพราะปัจจุบันยอดการให้สินเชื่อของสถาบันเงินก็ยังค่อนข้างชะลออยู่ครับ

บ้านที่ยังขายไม่ออกก็ยังมีอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเพิ่มจากไตรมาสก่อนประมาณ 2.8% มูลค่าของบ้านที่เหลือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 14.4% นี่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ในส่วนบ้านที่ยังค้างสต็อกอยู่ต้องพยายามรีบระบาย อัตราขายบ้านในแต่ละเดือน ขายได้น้อยเหลืออยู่ประมาณ 2.1% บ้านที่เหลือเยอะที่สุดคือ 2-3 ล้านบาท คิดเป็น 30% และ 3-5 ล้านบาทประมาณ 23% ครับ

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ต่อไปจะเป็นเรื่องด้าน Financial Highlight โดยคุณปฏิเวธ CFO ของบริษัทจะเป็นผู้มานำเสนอครับ

สวัสดีครับ ต่อไปก็เป็นรายงานข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ ในไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2568 รายได้ 244 ล้านบาท ลดลง 18.29% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ติดลบด้วย อย่างที่ท่าน CEO รายงาน ข้อมูลของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ล่าสุดใน 2 เดือนแรก การโอนก็ติดลบ 15% เป็นหน่วย Unit และ 16% เป็นมูลค่า รวมถึงการ Unit เปิดขายใหม่ในไตรมาส 1 สองเดือนก็คือจำนวน Unit ก็ติดลบ 15% และมูลค่าติดลบประมาณ 30% ครับ

ยงคอนกรีตเราก็มีการปรับตัวในการเพิ่มรายได้ในส่วนของกลุ่มบริษัทรับเหมาลูกค้าทั่วไป จะเห็นสัดส่วนที่ยกขึ้นมาจากปีที่แล้ว 51% เป็น 60% ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เราในกลุ่มนี้ เช่น คอนกรีตผสมเสร็จขึ้นมาประมาณ 16% ท่อก็ปรับขึ้นมา 32% เสาคานนี้เราก็ขายมากขึ้นประมาณ 82% รวมถึงปูนซีเมนต์ก็ประมาณ 200% ครับ ซึ่งสัดส่วนของลูกค้ากลุ่มอสังหาฯ ที่เราได้รับผลกระทบ สัดส่วนลดลงจากปีที่แล้ว 37% เหลือ 32% ตรงนี้ก็จะมีผลกระทบกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นรั้วและผนังสำเร็จรูป ลดลงประมาณ 50% ครับ

  • กำไรขั้นต้น: ต้นทุน 192 ล้านบาท ลดลง 8.2% กำไรขั้นต้น 51 ล้านบาท ลดลง 42% สาเหตุมาจากรายได้ที่ลดลงและการแข่งขันที่สูงขึ้น
  • สัดส่วนการขายสินค้าที่มี GP ที่ดีกว่า: ขายลดลง ในขณะที่สินค้าที่มี GP ที่ไม่สูง เราขายได้มากขึ้น
  • กำไรสุทธิ: อยู่ที่ 8 ล้านบาท ลดลง 73% มาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลงและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่

เรามาดูอัตรากำไรขั้นต้น 21% จาก 29% จากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น และกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.28% จากสาเหตุที่อธิบายมาในช่วงแรกครับ

รายได้ของบริษัท

  • การขายผลิตภัณฑ์คอนกรีต: อยู่ที่ 169 ล้านบาท ลดลง 14.66%
  • การขายพร้อมติดตั้ง: อยู่ที่ 74 ล้านบาท ลดลง 21%
  • ธุรกิจขนส่ง: เพิ่มขึ้นประมาณ 300,000 กว่าบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 32% บริษัทมีการหาลูกค้าภายนอกมากขึ้น เป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้ในธุรกิจขนส่งด้วย

สินทรัพย์รวม 1,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท เพิ่มจากเงินสดและรายการเงินสดเทียบเท่า เพิ่มจากลูกหนี้การค้า และมีการลดลงของสินค้าคงเหลือ หนี้สินหมุนเวียน 273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาทจากปี พ.ศ. 2567 เพิ่มจากหนี้สินระยะสั้นที่เป็น P/N และเจ้าหนี้การค้า รวมถึงหนี้สินที่เกิดจากสัญญาคือเงินมัดจำลูกค้าที่เรามีการขายสินค้าในบางผลิตภัณฑ์ และมีเงินมัดจำเข้ามามากขึ้น หนี้สินไม่หมุนเวียน 96 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ส่วนของผู้ถือหุ้น Equity ก็ปรับเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาทจากกำไรไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2568 ครับ

  • Current Ratio: ใกล้เคียงปีที่แล้ว 1.42 กับ 1.41
  • Debt to Equity Ratio: อยู่ที่ 0.4 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เกิดจากหนี้ระยะสั้นตัว P/N และเจ้าหนี้การค้า แต่บริษัทยังรักษาอัตรา D/E Ratio ไว้ต่ำกว่า 1 มาตลอด เป็นนโยบายในการบริหารจัดการหนี้สินอย่างระมัดระวัง เพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงินในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
  • Return on Equity: ปรับลงมาเหลือ 4.1% เป็นการปรับลงตามรายได้และกำไรที่ลดลง จากที่รายงานในช่วงแรกครับ

ขอบคุณ คุณปฏิเวธ นะครับ ก็ไปดูนะครับว่าตอนนี้ที่เรามีการเปิด Plant ใหม่ที่ระยอง ปัจจุบันนี้ หลังจากเราเปิด Plant เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว งานที่ WHA มีโรงงานที่ขึ้นมาค่อนข้างหลายโรงงาน แต่ก็มี Plant อื่นที่เปิดอยู่ด้วย เราไม่ได้ขาย Plant เดียว แต่เป็นโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งต้องช่วยกันส่งหลายโรงงาน เลยทำให้งาน Plant คอนกรีตที่บ้านค่ายที่ WHA มีงานขึ้นมาค่อนข้างเยอะ ตอนนี้ถือว่าเป็น Plant อันดับแรกๆ ที่ถือว่ามีงานเข้ามาเยอะและต่อเนื่อง จากที่เรามีรถส่งคอนกรีตเตรียมไว้ประมาณ 4 คัน ตอนนี้ถูกร้องขอไปประมาณ 7 หรืออาจจะต้องส่งไปถึง 10 คัน เพราะลูกค้าขึ้นพร้อมกันหลายโรงงาน และ Plant คอนกรีตเราอยู่ตรงข้ามของนิคมเลย คือข้ามถนนปุ๊บก็ถึง Site ลูกค้าเลย ทำให้เราสามารถบริการลูกค้าได้อย่างสะดวกครับ

อันนี้จะเป็นตัวรถคอนกรีตของเราที่เทอยู่หน้างาน สภาพหน้างานของโรงงานแต่ละโรงก็ถือว่าเป็นโรงงานใหญ่ๆ และนิคมอุตสาหกรรมเพิ่งเริ่มต้นในการก่อสร้าง ทำให้โรงงานเกิดพร้อมๆ กันกับหลายโรง นะครับ ก็ทำให้งานเราที่ระยองเข้ามาค่อนข้างเยอะในช่วงที่ผ่านมาเดือน 2 เดือนนี้ โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมงานก็เริ่มเข้ามาค่อนข้างเยอะแล้วครับ

ตัวนี้ก็จะเป็นอีกหน้างานหนึ่ง ซึ่งจะเป็น Site ที่เรามีการเซ็นสัญญาสร้างถนน ทำสะพานข้ามถนน จะเป็น Site ที่แยกวังสารภี งบประมาณที่ทางผู้รับเหมาประมูลมาได้คือ 650 ล้านบาท และเรา Supply คอนกรีตให้ ปัจจุบันผู้รับเหมาได้มีการเร่งรัดในการทำงานเทตอม่อขึ้นมา ซึ่งแผนการดำเนินงานนี้ ถนนสะพานเส้นนี้จะพยายามให้เปิดได้ภายในสิ้นปี ก็ถือว่าเร็ว ทำงานรวดเร็ว ตรงนี้เราก็จะมี Plant ที่วังสารภีเป็นส่วนที่ Supply ให้

[เริ่ม Q&A Session ที่ 1:16:50]

วันนี้ก็จะมีการตอบคำถามนะครับ 1 คำถาม แนวโน้มคอนกรีตผสมเสร็จเดือนเมษายนและช่วงพฤษภาคม ครึ่งเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ จำนวนผมไม่ได้เตรียมไว้นะครับ แต่สัญญาณออกมาใน Q2 เนี่ย คอนกรีตเราจังหวะที่เราได้เปิดงานของที่ที่ที่ระยองบ้านค่ายเนี่ย งานก็เข้ามาทันทีครับ รถเราก็ดีเกินคาดที่ที่ระยองครับ ส่วนที่กาญจนบุรีเนี่ย 2 Plant ที่เราเซ็นสัญญาไปแล้วเนี่ย อันนี้ก็คือ จากที่เห็นภาพงานคอนกรีตก็เริ่มใช้แล้วก็ งานคอนกรีตจะเริ่มใช้มากๆ เนี่ยต่อไปนี้ก็อีก 2 หรือ 3 ปีเพราะว่า จำนวนคอนกรีตทั้งหมด คาดการณ์ว่า 2 สะพานประมาณ 300,000 คิว ก็ถือว่าเป็นยอดที่ค่อนข้างเยอะ ยอดประมาณ 480 ล้านบาท นับจากนี้เป็นต้นไปเนี่ย หลังจากเปิดหน้างานได้แล้วเนี่ยผมคิดว่าการใช้คอนกรีตก็ ก็จะเป็นไปจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นแต่ บางครั้งถ้าเป็นฝนตกเนี่ยอาจจะเทไม่ได้ก็อาจจะชะลอไปครึ่งวันหรือวันหนึ่งครับ การใช้คอนกรีตในการ เพชรวิ่งพื้นเนี่ย ก็เราเรามี การคุย มีการทดสอบกันแล้วเนี่ย วันนึงเนี่ยประมาณสัก 2-300 คิว อย่างน้อยนะครับ ปัจจุบันเนี่ย บริษัท รับเหมาก่อสร้างเนี่ยเขามีรถในการเทคอนกรีต ฉะนั้น รถคอนกรีตเราไปถึงก็จะดั๊ม ดั๊มลง ดั๊มลง ดั๊มลง แล้วก็เครื่องจักร ที่เป็นรถ การเพชรวิ่งของ ถนนเนี่ยก็จะอัดและเท แล้วก็ขึ้นรูปเลย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ แล้วก็ทำให้งานเนี่ยรวดเร็วและแข็งแรง ครับก็คิดว่า นับจากจุดนี้เป็นต้นไปเนี่ยคิดว่างาน คอนกรีตผสมเสร็จเนี่ยถือว่าเป็น ดาวรุ่ง เป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งตัวนึงเลยนะครับ ที่ที่ทําให้เรามี ตัวเลขที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วค่อนข้างสูง ครับ ส่วนในเรื่องผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เนี่ย ก็คงต้อง เอ่อ วิ่งหาตลาดในส่วนของทางโรงงานมากยิ่งขึ้นนะครับ แล้วก็จุดอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น ในการที่จะมาเสริมในส่วนของ อะ อสังหาริมทรัพย์ที่ยังชะลออยู่ ก็ก็ต้องลองติดตามต่อนะครับว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์เนี่ย จะ จะอะไร จะมีการฟื้นประมาณเมื่อไหร่ ก็คาดว่าผมว่าน่าจะประมาณสักคิวคิว 3 อ่ะ คิว 3 คิว 4 เนี่ยต้องมาดูอีกทีว่า สัญญาณต่าง ๆ นะครับ เพราะว่าประเทศไทยก็อาจจะเจอหลายรูปแบบนะครับ ไม่ว่าจะเป็น อ่า เทรดวอร์ ในการขึ้นภาษี ก็ทําให้ ภาคการส่งออกเนี่ยก็ชะลอ ช็อก ไปอยู่พักนึงนะครับ ก็เพิ่งได้รับการคลี่คลายจากจีนกับทางอเมริกา แต่ ประเทศไทยก็ยังอยู่ในช่วงการเจรจา ผมว่าเหตุการณ์ที่เข้ามาหลาย ๆ เหตุการณ์เนี่ย ก็ทําให้ เอ่อ ภาวะเศรษฐกิจของไทยเนี่ย ก็ค่อนข้างสวิงแล้วค่อนข้างแกว่ง แต่ ทางบริษัทเองเนี่ยจะค่อนข้างที่จะ ระมัดระวังแล้วรัดกุมในเรื่องการลงทุน การบริหารจัดการนะครับ เราจะค่อนข้างที่จะ ป้องกันหลาย ๆ รูปแบบ ในเรื่องเกี่ยวกับ Cash Flow ในเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนนะครับ เพราะว่าเหตุการณ์ลักษณะเนี้ย ถ้า Cash Flow มีปัญหาก็จะทําให้ หลาย ๆ อย่างเกิดอุปสรรคต่อไป แต่ของเนี้ยเรื่อง Cash Flow เราถือว่าเราทำได้ค่อนข้างดีนะครับ

ถ้าคำถามไม่มีเพิ่มเติมนะครับ ก็ต้องขอบคุณทุกท่านนะครับที่ได้รับฟังและรับชมครับ ในเรื่อง performance ของบริษัท ยงคอนกรีต จำกัด มหาชน หากมีสอบถามเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อได้ช่องทางของทาง Facebook หรือทาง IR โทรศัพท์นะครับ สอบถามเพิ่มเติมทุกๆอย่างได้แล้วก็จะทยอยตอบให้นะครับ วันนี้ผม สรรเพชร เสริฐากร นะครับ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยง คอนกรีต จำกัด มหาชน แล้วก็คุณ ปฏิเวท เสรตกร นะครับ CFO นะครับ ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่ได้รับ ฟัง รับชมมาจนถึงปัจจุบันนะครับ ก็ผมขออนุญาตปิดการนําเสนอ Oppday ของ ยง คอนกรีต นะครับ ขอบคุณทุกท่านครับสวัสดีครับ

หัวข้อคำถามและคำตอบ

  1. แนวโน้มคอนกรีตผสมเสร็จ
    • Q2 มีสัญญาณที่ดีจากการเปิด Plant ใหม่ที่ระยอง
    • Plant ที่กาญจนบุรี 2 แห่งที่เซ็นสัญญาไปแล้วเริ่มใช้งาน คาดว่าจะใช้จำนวนมากในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
    • คาดการณ์ 2 สะพานใช้คอนกรีต 300,000 คิว มูลค่า 480 ล้านบาท

โดยสรุปแล้ว YONG เผชิญกับความท้าทายจากตลาดอสังหาฯ ที่ชะลอตัว แต่ก็มีโอกาสจากธุรกิจขนส่งและโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม กลยุทธ์ของบริษัทคือการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

โพสต์ล่าสุด