บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday DELTA: Q1/2568 ผลงานแกร่ง AI หนุน, มองข้ามช็อต โอกาสและความท้าทาย
P/E 125.92 YIELD 0.23 ราคา 199.00 (0.00%)
สรุป Oppday DELTA: Q1/2568 ผลงานแกร่ง AI หนุน, มองข้ามช็อต โอกาสและความท้าทาย
DELTA แถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 (ครอบคลุม ม.ค.-มี.ค. 2568) โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม ได้แก่ Mr. Victor Cheng (CEO), Miss นิภาพร จิรราจาริวงศ์ (CFO) และ Miss อัญชลี จิรธรรม (Investor Relations)
เดลต้า ประเทศไทยเริ่มต้นปี 2568 ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งทั้งด้านการเงินและการดำเนินงาน โดยมีรายได้อยู่ที่ 1.245 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิเป็นประวัติการณ์ที่ 161 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าท่ามกลางสภาพแวดล้อมโลกที่ไม่แน่นอน เดลต้า ประเทศไทยยังคงแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพในการดำเนินงาน โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการพื้นฐานในด้านดิจิทัล, ระบบอัตโนมัติ และโครงสร้างพื้นฐานทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดโลก แม้ว่าแรงส่งการเติบโตจะแตกต่างกันไปในแต่ละภาคส่วน แต่พื้นที่เชิงกลยุทธ์ เช่น อุตสาหกรรม 4.0, ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และศูนย์ข้อมูล ยังคงได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มโครงสร้างระยะยาว
บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดอุตสาหกรรม 4.0, ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV), และ Data Center โดยมีกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นนวัตกรรม, ความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน, และการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคเพื่อคว้าโอกาสเหล่านั้น ตลาดใหม่และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายยังคงเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของบริษัท
บริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก, ความตึงเครียดทางการค้า, สภาวะทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น, และความไม่แน่นอนด้านนโยบาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในตลาดโลก นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทใช้การติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด, การสื่อสารกับลูกค้าหลัก, และการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะบูรณาการความยั่งยืนและประสิทธิภาพการใช้พลังงานเข้ากับแนวทางธุรกิจระยะยาวในทุกภาคส่วน
แนวโน้มธุรกิจในอนาคตยังคงมีการเติบโต โดยเฉพาะในด้านดิจิทัล, ระบบอัตโนมัติ, และโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม, บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายการค้า บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและพลังงานสะอาด โดยมีเป้าหมายที่จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
Q: ค่า License ที่จ่ายให้ Delta ไต้หวันเริ่มลดลงบ้างแล้ว แนวโน้มในอนาคต 1-3 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
A: CEO กล่าวว่า ค่า License ไม่ได้ลดลง แต่ค่อนข้าง "ทรงตัว" เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง Product Mix ที่เน้น AI มากขึ้น บริษัทได้เจรจาอัตราค่า License ใหม่กับ Delta ไต้หวัน และบรรลุข้อตกลงใน Q4/2567 โดยการจ่ายค่า License เป็นไปตามอัตราใหม่นี้ คาดว่าใน 1-3 ปีข้างหน้า อัตราส่วนนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แม้อาจมีการปรับเล็กน้อยตาม Product Mix แต่จะไม่เบี่ยงเบนจากระดับปัจจุบันมากเกินไป
Q: เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไทย มีผลกระทบต่อ Delta หรือไม่ อย่างไร
A: CEO แจ้งว่าแทบไม่มีผลกระทบ ไม่มีการหยุดชะงักด้านการผลิต, บุคลากร, หรือ Supply Chain มีเพียงการหยุดผลิตชั่วคราว 1 ชั่วโมง เพื่ออพยพบุคลากรและตรวจสอบโครงสร้างอาคาร
Q: Delta รับและจ่ายเงินเป็นสกุล USD และ USD มีแนวโน้มถูกให้ความสำคัญลดลง จะมีมาตรการรับมืออย่างไร
A: CEO กล่าวว่า เนื่องจากทำธุรกิจกับตลาดต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทอเมริกัน จึงยังต้องใช้ USD มี Natural Hedge เพราะซื้อวัตถุดิบ (Semi-conductor) เป็น USD หากค่าเงินสกุลอื่นแข็งค่าขึ้น จะต้องหาเครื่องมือ Hedge เช่น ซื้อ Future Currency แต่ยังคงมีความท้าทาย CFO กล่าวเสริมว่า ใช้ Plain Vanilla Forward เพื่อ Hedge การรับเงิน
Q: คดีความที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายใน Q4 ปีที่แล้ว จะส่งผลกระทบในปีนี้มากน้อยแค่ไหน จะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายใน Q4 ปีนี้อีกหรือไม่
A: CEO กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายปีที่แล้วเกี่ยวข้องกับการละเมิด Patent ใน US ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจ่ายค่าธรรมเนียมให้ Firm เพื่อดำเนินการทาง ITC เมื่อกระบวนการ ITC สิ้นสุดแล้ว คาดว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายทางกฎหมายเพิ่มเติมอีก แต่บริษัทกำลังพยายาม Settling ข้อพิพาท IP อย่างแข็งขัน และหวังว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ จึงไม่สามารถเปิดเผยตัวเลข Settlement ได้ในขณะนี้
Q: Delta มีแนวทางปรับลดภาษีที่ถูกเรียกเก็บเกือบ 15% ให้ลดลงมาได้อย่างไร
A: CEO กล่าวว่า บริษัทติดตาม OECD Pillar 2 Tax อย่างใกล้ชิด รัฐบาลไทยมีท่าทีที่จะหาวิธีลดภาระให้บริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎใหม่ แม้จะมีการตั้ง Tax Accrual ในงบการเงินแล้ว แต่กฎหมายใหม่ที่มีรายละเอียดจะประกาศในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2569 และมีเวลา 18 เดือนในการจ่ายภาษี ซึ่งอาจไปจ่ายในปี 2570 รัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนภาคเอกชน เช่น R&D, Smart Manufacturing, และ Fixed Asset Investment ที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ บริษัททำงานร่วมกับ BOI และกระทรวงการคลังเพื่อติดตามความคืบหน้า
Q: แนวโน้มผลประกอบการ Q2 จะเป็นอย่างไร จะโตกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหรือไม่ รวมถึงทั้งปีนี้คาดว่ารายได้จะโตเท่าไหร่ และงบลงทุนจะใช้ทำอะไรบ้าง
A: CEO กล่าวว่า AI กำลังเข้าสู่โหมดเร่งเครื่อง ทำให้ Q1 มีรายได้จาก Power Electronics เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ผู้สร้าง Data Center กำลังเร่งสั่งซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง (GPU, ระบบกำลังไฟ, ระบบระบายความร้อน) คาดว่า Q2 จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่หลังจากนั้นยังมีความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของ US หาก Tariff ของไทยอยู่ในระดับที่เทียบเคียงได้กับประเทศอื่น ก็ยังเชื่อว่าจะสามารถแข่งขันได้ต่อไปได้ตาม Demand ของลูกค้า แต่หาก Tariff สูงเกินไป ก็อาจมีผลกระทบต่อธุรกิจ จะเห็นภาพชัดเจนขึ้นหลัง Q2 จบ
งบลงทุน: จะเน้นการสร้างอาคารใหม่ (Wellgrow, บางปู) และติดตั้งสายการผลิตอัจฉริยะ งบลงทุนรวมยังคงอยู่ที่ประมาณ 300 ล้าน USD ต่อปี
Q: โปรเจ็กต์ที่ทำร่วมกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย มีรายละเอียดอย่างไร และยังมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ อีกหรือไม่
A: CEO กล่าวว่า มีความร่วมมือกับ 7 มหาวิทยาลัยชั้นนำในไทย ด้าน Power Electronics และ Automation มีการให้ทุนการศึกษากับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang ส่งนักศึกษาระดับปริญญาโทไปเรียนและฝึกอบรมที่ไต้หวัน จะขยายความร่วมมือจาก 7 เป็น 9 มหาวิทยาลัย และเพิ่มจำนวนนักศึกษา (ปริญญาตรี/โท) ที่ไปศึกษาด้านวิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมไฟฟ้า แล้วกลับมาทำงานที่ Delta Electronics Thailand เป็นเวลา 2 ปี เพื่อเน้นการเพิ่ม R&D Capability
โดยสรุป DELTA ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตจากธุรกิจ AI และ Data Center แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและนโยบายการค้า บริษัทมีกลยุทธ์ในการปรับตัวและมุ่งเน้นการลงทุนในนวัตกรรมและความยั่งยืนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว