https://aio.panphol.com/assets/images/community/5071_4C5647.png

LST กำไรทรุด! ต้นทุนพุ่ง ฉุดกำไร Q1/68 ร่วง 19.1% แม้รายได้รวมโต 8.3%

P/E 7.09 YIELD 4.29 ราคา 4.66 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ: รายได้รวม LST โต แต่กำไรกลับลดลง

บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 3,125.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นลดลง 19.1% เหลือ 96.6 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

รายได้และกำไร: ราคาขายดันรายได้ แต่ต้นทุนฉุดกำไร

รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 8.9% เป็น 181.7 ล้านบาท จากราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นถึง 37.7% แม้ปริมาณการขายจะลดลง 20.9% แต่กำไรขั้นต้นกลับลดลง 13.5% หรือ 21.0 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยที่สูงขึ้นจากผลผลิตปาล์มที่ลดลงตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน นอกจากนี้ อัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 91.7% จากราคาต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบเฉลี่ยต่อหน่วยที่สูงขึ้น 30.4%

ในส่วนของบริษัทย่อย UPOIC (ธุรกิจสวนปาล์ม) รายได้จากการขายลดลง 17.5% เนื่องจากการขายน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบลดลงอย่างมาก และมีอัตราส่วนต้นทุนขายสูงถึง 103.6% จากปริมาณการสกัดน้ำมันปาล์มดิบลดลงจากภัยแล้ง ในทางตรงกันข้าม UFC มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 8.7% จากรายได้กลุ่มเครื่องดื่มที่เติบโต

ข้อสังเกต: ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น กระทบผลกำไร

ผลประกอบการของ LST ในไตรมาสนี้ สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจสวนปาล์ม ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอก เช่น ภัยแล้ง ที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตและต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่สูงขึ้น แม้ว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มรายได้จากการขายได้จากการปรับราคาขาย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

สรุป: LST ต้องรับมือความท้าทายด้านต้นทุน

โดยสรุป LST ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะในธุรกิจสวนปาล์ม เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว แม้ว่า UFC จะยังคงมีการเติบโตที่ดีในกลุ่มเครื่องดื่ม แต่ผลกระทบจากธุรกิจสวนปาล์มยังคงเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการโดยรวมของบริษัท

โพสต์ล่าสุด