บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MINT: กรุงศรีฯ คาด Q1/68 ขาดทุนลดลง คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 38 บาท
P/E 13.17 YIELD 2.67 ราคา 22.50 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ:
บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี (KSS) คาดการณ์ผลประกอบการ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ในไตรมาส 1 ปี 2568 จะขาดทุนลดลง และคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 38 บาท อิงจากการเติบโตของการดำเนินงานโรงแรมที่แข็งแกร่งในยุโรป, ไทย และมัลดีฟส์ รวมถึงการขยายอัตรากำไรและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง
รายละเอียดการวิเคราะห์:
KSS คาดว่า MINT จะขาดทุน 11 ล้านบาทใน Q1/2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจโรงแรมที่มีรายได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท (+5% YoY, -9% QoQ) แม้ว่า RevPAR ของโรงแรมในกลุ่ม Owned & Leased ในรูปเงินบาทจะเพิ่มขึ้นเพียง 1% YoY เนื่องจากเงินบาทแข็งค่า แต่ RevPAR ในสกุลเงินท้องถิ่นคาดว่าจะเติบโตได้ในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะยุโรป (+8% YoY), ไทย (+15% YoY) และมัลดีฟส์ (+20% YoY) จากอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักที่สูงขึ้น ธุรกิจอาหารคาดว่ารายได้จะทรงตัว YoY จาก SSSG ที่หดตัว -3% YoY ในไทย เนื่องจากกลุ่มไอศกรีมมีการเลื่อนทำโปรโมชั่น ขณะที่ SSSG ในจีนและออสเตรเลียคาดว่าจะลดลงราว 3-6% EBITDA margin คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 22.5% จากการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจากการชำระหนี้
ข้อสังเกต:
KSS มองว่าการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของยุโรปจะหนุนการเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยคาดว่า MINT จะยังคงเติบโต YoY ใน 2Q25F จากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและแนวโน้มการจองล่วงหน้าที่ดีในเดือนเมษายน โดยเฉพาะในยุโรป นอกจากนี้ โรงแรมในไทยยังคงเติบโตในระดับเลขหลักเดียว และมัลดีฟส์ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว สำหรับธุรกิจอาหาร คาดว่า SSSG จะทยอยฟื้นตัวและกลับมาอยู่ในระดับทรงตัว YoY ใน 2Q25F จากการกลับมาทำแคมเปญส่งเสริมการขายและการเปิดตัวสินค้าใหม่ MINT ยังคงเดินหน้าตามแผนลดภาระหนี้ (deleveraging) โดยคาด Net IBD/E จะปรับตัวดีขึ้นจาก 0.8x ในปี 2024 มาอยู่ที่ 0.7x ในปี 2025F จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
สรุป:
KSS คงคำแนะนำ "ซื้อ" MINT โดยให้ราคาเป้าหมาย 38 บาท อิงจาก DCF เนื่องจากโครงสร้างธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงได้ดีทั้งในเชิงของประเภทธุรกิจ (โรงแรมและอาหาร) และการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์ ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนในแต่ละภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันหุ้น MINT ซื้อขายที่ระดับ PBV เพียง 1.3 เท่า และ PER 16 เท่า ซึ่งอยู่ใกล้ระดับ -1.5SD สะท้อนความน่าสนใจในเชิงมูลค่าเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน