https://aio.panphol.com/assets/images/community/4674_B7BBCD.png

PTTEP: แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังแนะนำ "ซื้อ" แม้กำไร Q2/68F มีแนวโน้มลดลง

P/E 6.89 YIELD 9.08 ราคา 106.00 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LHS) ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น PTTEP โดยมีราคาเป้าหมาย 137 บาท แม้คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 2/2568F จะลดลงเล็กน้อย แต่ยังมองเห็นการเติบโตในระยะยาวจากการเพิ่มปริมาณการผลิต และอัตราเงินปันผลที่ยังคงสูงถึง 8.7%

รายละเอียดการวิเคราะห์

LHS คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเคลื่อนไหวในกรอบ 65-75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดย PTTEP ไม่คิดว่าราคาจะลดลงต่ำกว่านี้มากนัก เนื่องจากต้นทุนการผลิต Shale oil ที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ PTTEP มุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณการผลิตในระยะยาว +2-3%CAGR ซึ่งต้องใช้งบลงทุนสูง จึงยังไม่เหมาะสมที่จะซื้อหุ้นคืนในขณะนี้

ถึงแม้ปริมาณการขายในไตรมาส 2/2568F จะเพิ่มขึ้น แต่ ASP (Average Selling Price) ที่ลดลงตามราคาก๊าซและน้ำมันดิบดูไบที่ลดลง -11%QTD จะส่งผลให้กำไรลดลงเล็กน้อยประมาณ 5-10%QoQ

ข้อสังเกตและประเด็นสำคัญ

LHS มองว่าราคาหุ้น PTTEP อยู่ในโซนต่ำ เมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี (Book Value) และ ROE (Return on Equity) ที่ 12% ซึ่งสะท้อนถึงราคาดูไบที่ลดลงแล้ว การเติบโตของปริมาณการขาย +3%CAGR จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

โครงการสำคัญที่ PTTEP กำลังพัฒนา ได้แก่ โครงการ Cluster มาเลเซีย (SK405B, 417, 438, 410B) ซึ่งตั้งเป้า FID (Final Investment Decision) ภายในสิ้นปีนี้, การ Re-engineering process ของแหล่ง Lang Lebah ให้แล้วเสร็จสิ้นปีนี้, การเริ่มผลิตของแหล่งกาชาภายในสิ้นปีนี้ที่ 340 MMSCFD, และโครงการโมซัมบิกที่ได้รับการอนุมัติ Project finance แล้ว

สรุป

LHS ยังคงแนะนำ "ซื้อ" PTTEP โดยมีราคาเป้าหมาย 137 บาท ด้วยวิธี DCF (Discounted Cash Flow) แม้ว่าแนวโน้มกำไรระยะสั้นอาจลดลงตามราคาดูไบ แต่ยังคงมองเห็นการเติบโตในระยะยาวจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, ความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซ, ปริมาณขายที่ต่ำกว่าคาด, ราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำกว่าคาด, ต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าคาด, และผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์

โพสต์ล่าสุด