บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
OSP กำไร Q1/68 โตกระฉูด! PST คาด Yield ปันผลสูง 7.6% แต่หั่นเป้าพื้นฐานเหลือ 17.40 บาท
P/E 13.40 YIELD 3.80 ราคา 15.80 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: OSP แนวโน้ม Q1/68
Phillip Securities (Thailand) หรือ PST คาดการณ์ยอดขาย OSP ในไตรมาส 1/2568 จะลดลง 6.7% YoY แม้จะเป็นช่วง High Season แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตถึง 46.2% YoY จากยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีขึ้น PST ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17.40 บาท จากเดิม 21.20 บาท โดยมองว่า Dividend Yield ปี 68 ที่ 7.6% จะช่วยรองรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ดี
รายละเอียดผลประกอบการ Q1/68: ยอดขายในประเทศฉุด แต่ GPM หนุน
PST คาดยอดขายรวม Q1/68 อยู่ที่ 6,775 ล้านบาท (+5.5% QoQ, -6.7% YoY) โดยยอดขายในประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (-15% YoY) จากประสิทธิภาพการบริหารสต็อกสินค้าที่ต้องปรับปรุง อย่างไรก็ตาม ยอดขายต่างประเทศเติบโตถึง 20% YoY จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและราคาที่ปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ธุรกิจ Personal Care คาดว่าจะเติบโต 11% YoY ส่วน GPM คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 40% จากสัดส่วนยอดขายต่างประเทศและ Personal Care ที่เพิ่มขึ้น PST คาดการณ์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 1,211 ล้านบาท (+113.7% QoQ, +46.2% YoY) โดยมีกำไรพิเศษจากการขายโรงแก้วในพม่า 240 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติที่ 971 ล้านบาท (+58.0% QoQ, +17.2% YoY)
ข้อสังเกตและปัจจัยเสี่ยง: Demand ในประเทศอ่อนแอ คู่แข่งในต่างประเทศ
PST มองว่ายอดขายในประเทศที่อ่อนตัวต่อเนื่องเป็นความเสี่ยงในระยะยาวจาก Demand ที่อ่อนแอ แม้ GPM จะดีขึ้น แต่ยังคงกังวลเกี่ยวกับ Demand ในประเทศและต่างประเทศที่อาจได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งที่กำลังสร้างโรงงานเครื่องดื่มชูกำลังในพม่าและกัมพูชา PST คาดว่าโรงงานเหล่านี้จะแล้วเสร็จในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ ซึ่งอาจกดดันยอดขายเครื่องดื่มในต่างประเทศของ OSP ในระยะยาว
สรุป: คงคำแนะนำ "ซื้อ" แม้หั่นเป้า แต่ Yield ยังจูงใจ
PST ปรับลดราคาพื้นฐานปี 68 ของ OSP ลงจาก 21.20 บาท เป็น 17.40 บาท โดยวิธี DCF (DDM) โดยมี WACC ที่ 7.5% สำหรับปี 2568-2570 และ 7.6% สำหรับปี 2571 เป็นต้นไป และมี Sustainable growth rate ที่ 1.1% ปรับลดจาก 1.3% จากภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม PST ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่าอัตราปันผลที่คาดว่าจะสูงถึง 7.6% จะช่วยรองรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ดี