https://aio.panphol.com/assets/images/community/4582_A7B9F9.png

ICHI กำไร Q1/68 แผ่ว! หยวนต้าคาดหวัง Q2/68 โตแรง หนุน "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 15.60 บาท

P/E 13.24 YIELD 8.87 ราคา 12.40 (0.00%)


ภาพรวม ICHI จากหยวนต้า

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ผลกำไรของ บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ในไตรมาส 1/2568 จะยังไม่โดดเด่นนัก แต่คาดว่าจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2/2568 จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมายเดิมที่ 15.60 บาท และเลือก ICHI เป็น Top pick ของกลุ่มเครื่องดื่มในไตรมาส 2/2568

คาดการณ์ผลกำไร Q1/2568

หยวนต้าคาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 239 ล้านบาท (+15.7% QoQ, -34.4% YoY) โดยมีปัจจัยหลักดังนี้:

  1. รายได้คาดอยู่ที่ 1,755 ล้านบาท (-12.6% QoQ, -18.0% YoY) เนื่องจากฤดูหนาวที่ยาวนานจากผลกระทบของลานีญากดดันอุปสงค์เครื่องดื่ม
  2. GPM คาดอยู่ที่ 23.5% ลดลงทั้ง QoQ และ YoY จาก U-rate ที่ลดลงตามยอดขาย รวมถึงการเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ของเครื่องจักรใหม่ในเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งในช่วงแรกอาจยังไม่เต็มประสิทธิภาพ
  3. SG&A/Sales คาดอยู่ที่ 7.0% ลดลง QoQ แต่สูงขึ้น YoY เนื่องจากบริษัทมีการใช้จ่ายทางการตลาดใกล้เคียงกับปีก่อน แต่รายได้ลดลง
  4. ส่วนแบ่งกำไรจากอินโดนีเซียคาดที่ 2 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนในไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังลดลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจอินโดนีเซียชะลอตัวและเกิดอุทกภัยในบางพื้นที่

แนวโน้ม Q2/2568 สดใส

หยวนต้าคาดการณ์กำไรจะกลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ในไตรมาส 2/2568 จากปัจจัยหนุนดังนี้:

  1. การเข้าสู่ฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงการเร่งทำการตลาดเชิงรุก
  2. การรับรู้กำลังการผลิตใหม่เต็มไตรมาส ทำให้สามารถกลับมาผลิตสินค้าให้ IF ได้อีกครั้ง และการรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่อย่าง TKN นอกจากนี้ยังมีการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น
  3. GPM คาดว่าจะฟื้นตัว QoQ จาก U-rate ที่ปรับตัวดีขึ้น
  4. ส่วนแบ่งกำไรจากอินโดนีเซียคาดว่าจะฟื้นตัวจากฐานต่ำในไตรมาส 1/2568 ที่เกิดอุทกภัย โดยปัจจุบันเริ่มมีลูกค้ากลับมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้นแล้ว
  5. การขายที่ดินที่อยุธยาคาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 2/2568 ทำให้มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษ

เหตุผลที่ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

แม้ว่าผลกำไรในไตรมาส 1/2568 จะอ่อนแอกว่าที่คาด แต่หยวนต้ายังคงประมาณการกำไรปี 2568 ไว้ที่ 1,409 ล้านบาท (+10.6% YoY) เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่จะกลับมาเติบโตตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 จากการขยายกำลังการผลิต ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER25 เพียง 11.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และยังสามารถคาดหวังเงินปันผลงวด 1H25 ได้ในระดับ 4-5%

วิธีคิดราคาเป้าหมาย: ประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF โดยใช้ WACC 10.3% (Beta 1.30, Ke 12.3%) และ Terminal Growth 1.0%

โพสต์ล่าสุด