บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิลดฮวบ

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (MST) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไรสุทธิ 131.69 ล้านบาท ลดลง 23.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 171.31 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ลดลงในหลายส่วน

รายได้หด: ตลาดทุนป่วน ฉุดค่านายหน้า

ในช่วงไตรมาส 1/2568 ตลาดทุนไทยเผชิญความผันผวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ลดลง โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยลดลง 6.32% เหลือ 42,826.25 ล้านบาท/วัน นอกจากนี้ สัดส่วนนักลงทุนบุคคลก็ลดลงจาก 32% เหลือ 30% ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของ MST

• รายได้ค่านายหน้า: ลดลง 3.02% หรือ 7.52 ล้านบาท จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลที่ลดลง
• รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ: ลดลง 27.31% หรือ 11.70 ล้านบาท จากค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ลดลง
• รายได้ดอกเบี้ย: ลดลง 5.10% หรือ 14.14 ล้านบาท จากดอกเบี้ยเงินฝากและพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง
• รายได้อื่นๆ: เพิ่มขึ้น 8.20% หรือ 11.89 ล้านบาท

ต้นทุนพุ่ง: ฉุดกำไรสุทธิ

ถึงแม้ MST จะพยายามควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ค่าใช้จ่ายรวมกลับเพิ่มขึ้น 5.58% หรือ 27.88 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน, ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย, ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 22.89% หรือ 9.74 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้

วิเคราะห์และแนวโน้ม: ความท้าทายรออยู่

ผลประกอบการของ MST ในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความท้าทายในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย การลดลงของรายได้หลักและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย เป็นปัจจัยกดดันกำไรสุทธิ

ปัจจัยเสี่ยง: ความผันผวนของตลาดทุน, การแข่งขันที่สูงขึ้น, ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

โอกาส: การเติบโตของตลาดทุนในระยะยาว, การขยายฐานลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ, การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

MST ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่าย, เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว