บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

TACC การเติบโตในปี 2568 จากงานประชุมผู้ถือหุ้น
P/E 10.59 YIELD 8.52 ราคา 4.58 (0.00%)
1. รายได้และกำไรในอนาคต
1. รายได้และกำไรในอนาคต
- บริษัทดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้ และมีการผลักดันกระตุ้นยอดขายในช่วงฤดูร้อนในไตรมาส 1 ซึ่งการบริโภคในประเทศยังเติบโตดีเนื่องจากอากาศร้อนและนโยบาย e-receipt รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
- คาดการณ์ว่ายอดขายน่าจะเติบโตขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่สำหรับตลาดกัมพูชาและลาว ซึ่งมีความต้องการแตกต่างจากไทย โดยเน้นสินค้าที่สดชื่นและตามกระแสวัยรุ่น ... รวมถึงการพัฒนาเมนูใหม่ๆ สำหรับธุรกิจคาเฟ่ที่มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น และการขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าร้อน
- มีการนำเสนอสินค้าในงานแสดงสินค้าที่ดูไบ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและมีการเจรจาเพื่อส่งสินค้าไปต่างประเทศ ... รวมถึงการกระจายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แม็คโครในกัมพูชา และ 7-Eleven สำหรับผลิตภัณฑ์เจลลี่
- คาดว่าจะมีสินค้าใหม่ออกมาอีกหลายตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 หรือ 4 เป็นต้นไป
- บริษัทตั้งเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น (GP) ในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 30-32% โดยจะไม่ต่ำกว่า 30% แม้จะมีผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น
คาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาส 1 จะออกมาดีตามเป้าหมาย
2. อัตรากำลังผลิต
- มีการขยายกำลังการผลิตของสินค้าสำหรับธุรกิจคาเฟ่ที่โรงงานบ้านบึงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเติบโตค่อนข้างมาก
- ในปี 2025 ได้มีการเสริมสายการผลิต (Line) เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าในประเภท (Category) อื่นๆ และขนาดบรรจุภัณฑ์ (Pack Size) ใหม่ๆ ได้มากขึ้น
- การเปิดโรงงานที่ 3 และการปรับปรุงสายการผลิตใหม่ของ All Café ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 30%
- ปัจจุบัน ยอดการผลิตส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่โรงงานบ้านบึง โดยใช้กำลังการผลิตไปประมาณ 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
- ในปี 2025 จะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อทำสายการผลิตสำหรับสินค้าใหม่ที่จะนำไปลงตลาด
3. กำไรขั้นต้น
- บริษัทได้รับผลกระทบจากราคาเมล็ดกาแฟที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทั้ง Arabica และ Robusta โดยเฉพาะ Robusta
- บริษัทมีการบริหารจัดการผลกระทบดังกล่าวโดยร่วมพัฒนากับลูกค้าในการปรับสูตร หาวัตถุดิบสำรอง ล็อคราคา และบริหารปริมาณการขาย เพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์ในขณะที่ควบคุมต้นทุน
- แม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GP) ให้อยู่ที่ประมาณ 30-32%
4. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์
- ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกเพิ่มขึ้นสูงมากในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคา Robusta
- บริษัทได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อรับมือกับราคาเมล็ดกาแฟที่สูงขึ้น เช่น การล็อคราคาล่วงหน้า การปรับสูตรร่วมกับลูกค้า และการหาแหล่งวัตถุดิบสำรอง
- มีการสต็อกเมล็ดกาแฟไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่อาจสูงขึ้นอีก ซึ่งทำให้สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น
5. ค่าใช้จ่ายโรงงานใหม่
- มีการลงทุนในการขยายโรงงานที่บ้านบึงเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับธุรกิจคาเฟ่
- ได้มีการเปิดโรงงานที่ 3 แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2567
- ในปี 2568 จะมีการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่เพื่อรองรับการผลิตสินค้าใหม่ในประเภทอื่นๆ
6. แผนการเติบโต
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่: เน้นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดต่างๆ เช่น สินค้าที่สดชื่นสำหรับตลาดกัมพูชาและลาว ... เมนูพิเศษสำหรับคาเฟ่ และผลิตภัณฑ์ที่เน้นสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาสินค้าพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ของตนเองในอนาคต ...
ขยายตลาดต่างประเทศ: ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าสำหรับตลาดกัมพูชาและลาว ... และมองหาโอกาสในการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศอื่นๆ หลังจากการนำเสนอสินค้าในงานที่ดูไบ ...
ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย: นอกจากการจำหน่ายผ่าน 7-Eleven ซึ่งยังคงเป็นช่องทางหลัก ... บริษัทได้ขยายช่องทางไปยัง Makro ในกัมพูชา ช่องทางออนไลน์ และธุรกิจคาเฟ่ต่างๆ
ธุรกิจลิขสิทธิ์: มีแผนที่จะนำคาแรคเตอร์ไทยไปประชาสัมพันธ์ในระดับนานาชาติ (Go Inter) เพื่อสร้างให้เป็น Soft Power ของประเทศ และส่งเสริมคาแรคเตอร์ทั้งไทยและต่างประเทศในตลาดต่างๆ ...
ความยั่งยืน (Sustainability) และต่อต้านการทุจริต (CAC): ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG และกำลังดำเนินการเพื่อเข้าร่วมโครงการ CAC ในปีนี้
Syrup (น้ำเชื่อม): มองว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อเพิ่มความครบวงจรในการนำเสนอสินค้าให้กับร้านค้าต่างๆ มากกว่าที่จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เน้นยอดขายจำนวนมาก
การร่วมทุน (Joint Venture): มีความสนใจในการหาโอกาสร่วมทุนเพื่อการเติบโตและกระจายความเสี่ยง แต่จะพิจารณาถึงความเสี่ยงอย่างรอบคอบ โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักก่อน
7. ความผิดพลาดในอดีต
- มีการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วม (TCI) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาเป็นจำนวน 30 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่ไม่สามารถควบคุมได้
- มีการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทลูก (HIP) ที่ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (แบรนด์ BROS) เป็นจำนวน 50 ล้านบาทในปี 2567 เนื่องจากผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเป็นการด้อยค่าเพียงครั้งเดียวในปี 2567
- ได้มีการย้ายแบรนด์ BROS มาบริหารจัดการภายใต้ TACC โดยตรง ... และมีแผนที่จะปรับกลยุทธ์เน้นช่องทางออฟไลน์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้า Mass มากขึ้น
- มีการซื้อเครื่องหมายการค้าของบริษัทลูก (BROS) มาดำเนินการเองด้วยมูลค่า 18 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะพยายามทำให้คุ้มค่า
- มีการด้อยค่า Goodwill จำนวน 7.8 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการของ Brash Beauty ไทยในปี 2566 เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างการดำเนินงานและย้ายแบรนด์มาอยู่ภายใต้ TACC
ขอบคุณ คุณ Moji สำหรับข้อมูล
โพสต์ล่าสุด
บทความ
วันนี้ 12:37 น.
DOHOME: สรุปผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 และแนวโน้มธุรกิจปีปัจจุบัน
บทความ
วันนี้ 12:35 น.
สรุป Oppday หุ้น AAV : มองแนวโน้มการเติบโตท่ามกลางความท้าทาย ปี 2568
บทความ
วันนี้ 12:34 น.
CENTEL เผยผลประกอบการ Q1 ปี 2568: โอกาสและความท้าทายในตลาดโรงแรมและอาหาร
บทความ
วันนี้ 12:32 น.
PSL ขาดทุน 4.14 ล้านเหรียญฯ ในไตรมาส 1/68 เหตุตลาดซบเซา!
บทความ
วันนี้ 12:32 น.
SAM ขาดทุนสุทธิ 39.39 ล้านบาทในไตรมาส 1/2567 แม้รายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น
บทความ
วันนี้ 12:32 น.
SAWANG กำไรหด! ไตรมาส 1/68 ขาดทุนพุ่ง 310% รายได้วูบ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ฉุดยอดขาย
บทความ
วันนี้ 12:31 น.
SEI กำไรพุ่ง 406% ในไตรมาส 1/68! รายได้ทะยานจากยอดขายเครื่องมือแพทย์
บทความ
วันนี้ 12:31 น.
SPCG กำไรทรุด 61% หลัง Adder หมดอายุ แต่ Solar Roof ยังโต
บทความ
วันนี้ 12:31 น.
PSL พลิกขาดทุน Q1/68! รายได้วูบ ตลาดเรือปั่นป่วน
บทความ
วันนี้ 12:31 น.