บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

KGI Securities (ประเทศไทย) ปรับลดราคาเป้าหมาย DOHOME ลงเหลือ 5.70 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ "Outperform" มองผลงาน Q1/68 โต YoY, QoQ

ประเด็นสำคัญ

แม้ว่าการใช้จ่ายของภาครัฐจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ DOHOME แต่ความต้องการจากผู้บริโภคโดยตรงอาจส่งผลกระทบต่อกำไร KGI จึงปรับลดประมาณการกำไร และให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 5.70 บาท (จากเดิม 8.20 บาท) ซึ่งยังมี upside อีก 14% จากราคาปิดล่าสุด อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ "Outperform"

รายละเอียดการวิเคราะห์

KGI คาดการณ์กำไรสุทธิของ DOHOME ใน Q1/2568 จะอยู่ที่ 260 ล้านบาท (+6% YoY, +62% QoQ) การเติบโต YoY มาจากการลดลงของต้นทุนทางการเงิน เนื่องจากการลดลงของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ในขณะที่การเติบโต QoQ มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวของอัตรากำไรขั้นต้นของเหล็ก

แม้ว่าความต้องการจากผู้บริโภคโดยตรงจะยังอ่อนแอ แต่ความต้องการที่เกี่ยวข้องกับโครงการของภาครัฐยังคงดีอยู่ และคาดว่ายอดขายสาขาเดิมของ DOHOME จะเติบโต +2% (เทียบกับ -9.8% ใน Q1/2567 และ 1.5% ใน Q4/2567) เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะเหล็ก KGI คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของเหล็กจะกลับมาอยู่ที่ 10-11% ประกอบกับกลยุทธ์ house brand จะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมอยู่ที่ 17.7% (-10bps YoY, +90bps QoQ)

ข้อสังเกต

KGI ปรับลดประมาณการ SSSG ลงเหลือ 2% ในปี 2568 (จากเดิม 4%) และ 2.5% ในปี 2569 (จากเดิม 3%) และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลง 20bps สำหรับทั้งสองปี ส่งผลให้ปรับลดประมาณการกำไรลง 14% สำหรับปี 2568 และ 13% สำหรับปี 2569 แม้ว่าการใช้จ่ายของภาครัฐจะช่วยสนับสนุนยอดขายของ DOHOME ในช่วงไตรมาสที่จะถึงนี้ แต่ความต้องการจากผู้บริโภคโดยตรง (52% ของรายได้รวม) ดูเหมือนจะอ่อนตัวลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นอาจถูกกดดันจากการส่งเสริมการขาย และความเสี่ยงจากอัตรากำไรขั้นต้นของเหล็ก (เหล็กมีสัดส่วน ~30% ของรายได้รวมของ DOHOME)

เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของกำไรที่ช้าลง KGI จึงปรับลด PER ลงเหลือ 24.0x (-1.0 S.D ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง Siam Global House (GLOBAL.BK/GLOBAL TB) และ DOHOME) จาก 30.0x

สรุปและคำแนะนำ

KGI ปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงเหลือ 5.70 บาท อิงจาก PER 24.0x (-1.0 S.D ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง GLOBAL และ DOHOME) จากเดิม 8.20 บาท ยังคงคำแนะนำ "Outperform" เนื่องจาก 1) คาดว่ารายได้จะได้รับการสนับสนุนจากการเบิกจ่ายของภาครัฐ 2) คาดว่ากำไรจะเติบโต YoY ทุกไตรมาส และ 3) มี upside 14% สู่ราคาเป้าหมายจากราคาปิดล่าสุด

ความเสี่ยง: เศรษฐกิจชะลอตัว, แผนการขยายสาขาพลาดเป้า, ราคาสินค้าเกษตรอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าคงคลังสูง