บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป OPPDAY หุ้น KGEN: โอกาสเติบโตในตลาด EV และธุรกิจโลจิสติกส์ ปี 2568
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.82 (0.00%)
สรุป OPPDAY หุ้น KGEN: โอกาสเติบโตในตลาด EV และธุรกิจโลจิสติกส์ ปี 2568
สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เป็นการประชุม Oppday ของ King Gen Group โดยมีคุณ พรทิพย์ ตรงกิ่งตอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณ นพพร เกียรติขจรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี เป็นผู้ให้ข้อมูล
ภาพรวมของ King Gen Group มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการจัดตั้งบริษัท King Gen Auto ซึ่งเป็นการร่วมทุน (JV) กับ Chery Group ภายใต้ชื่อ Omoda & Jaecoo โดยแบ่งเป็นส่วนโรงงานผลิตรถยนต์และส่วนจัดจำหน่าย นอกจากนี้ King Gen Group ยังมีธุรกิจโลจิสติกส์ที่ดำเนินการอยู่ปัจจุบัน ซึ่งมี 3 บริษัทลูก ได้แก่ มนตรี ทรานสปอร์ต คอร์ปอเรชั่น (KGEN ถือหุ้น 90%), วารุกะ 888 (KGEN ถือหุ้น 49%) และ มนตรี Carrier (KGEN ถือหุ้น 99%)
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
การร่วมทุนกับ Chery Group เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ เนื่องจาก Chery เป็นแบรนด์อันดับ 1 ด้านการส่งออกรถยนต์ของจีน การมีโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในไทยจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตของ King Gen ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนส่งผู้โดยสารของมนตรี ทรานสปอร์ต ที่มีส่วนแบ่งการตลาดในโรงเรียนนานาชาติมากกว่า 90%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV): การร่วมทุนกับ Chery Group ทำให้ King Gen มีโอกาสในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายผลิตรถยนต์สูงสุด 80,000 คันต่อปี
- ธุรกิจโลจิสติกส์สีเขียว (Green Logistics): การใช้รถบรรทุก EV ในธุรกิจโลจิสติกส์ช่วยลดการปล่อย CO2 และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการแข่งขันสูง King Gen ต้องสร้างความแตกต่างและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี: เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว King Gen ต้องติดตามและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
King Gen มีแผนการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ EV อย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ King Gen ยังให้ความสำคัญกับการสร้างพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำต่างๆ เพื่อขยายธุรกิจและลดความเสี่ยง
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
แนวโน้มของ King Gen ในอนาคตคือการเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจโลจิสติกส์สีเขียว โดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 27:15]
-
งบลงทุนปี 2568
คำถาม: งบลงทุนปี 2568 จะใช้ทำอะไร?
คำตอบ: งบลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ EV ให้ครบตามแผน และปรับปรุงรถ फ्लीटของมนตรีให้เป็นรถไฟฟ้ามากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์สีเขียวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-
รายได้ปี 2568
คำถาม: คาดการณ์รายได้ปี 2568 เป็นอย่างไร?
คำตอบ: ธุรกิจโลจิสติกส์ของมนตรีจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ารายได้จากโรงงานผลิตรถยนต์ EV จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตของรายได้ในปี 2568 โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 และคาดว่าจะมีรายได้เฉลี่ยคันละ 1 ล้านบาท
โดยสรุป King Gen Group มีโอกาสเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจโลจิสติกส์ โดยมีแผนการลงทุนและการดำเนินงานที่ชัดเจน และมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ