https://aio.panphol.com/assets/images/community/3678_9b8cad.png

RITE Turnaround: สรุป Oppday หุ้น RT ปี 2568 กับโอกาสเติบโตในตลาด Infra Structure

P/E 6.23 YIELD 0.00 ราคา 0.30 (0.00%)

RITE Turnaround: สรุป Oppday หุ้น RT ปี 2568 กับโอกาสเติบโตในตลาด Infra Structure

สวัสดีท่านนักลงทุนและสื่อมวลชนทุกท่าน ในนามบริษัท Right Tunnelling จำกัด (มหาชน) หรือ RT ขอต้อนรับทุกท่านเข้ามารับฟังการสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 รวมถึงทิศทางธุรกิจของปี 2568 ในงาน Oppday วันนี้ โดยผู้ให้ข้อมูลคือคุณชัยยา วงศ์รัพย์พานิช กรรมการผู้จัดการ และคุณปรเมศวชิมา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชีและการเงิน

ภาพรวมธุรกิจ Right Tunnelling

บริษัท Right Tunnelling ก่อตั้งในปี 2000 (พ.ศ. 2543) ปีนี้เป็นปีที่ 25 ของ RT เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานขุดเจาะอุโมงค์ ทั้งงานเจาะอุโมงค์ในชั้นหินแข็งและชั้นดินอ่อน รวมถึงงานวิศวกรรมโยธาและงานธรณีเทคนิคครบวงจร แบ่งกลุ่มธุรกิจของบริษัทออกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ ดังนี้:

  1. กลุ่มอุโมงค์หรือชาร์ป (รายได้หลักของบริษัทตลอด 25 ปี)
    • งานอุโมงค์รถไฟ (งบประมาณภาครัฐส่วนนี้มีปริมาณค่อนข้างมากและต่อเนื่องอีก 5-10 ปี)
    • งานอุโมงค์สำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
    • งานอุโมงค์สำหรับท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินในกรุงเทพมหานคร
    • งานอุโมงค์การประปาของการประปานครหลวง
    • งานอุโมงค์บำบัดน้ำเสียและระบายน้ำท่วม
  2. กลุ่มงานก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน
    • การก่อสร้างเขื่อนและชลประทานในไทย
    • ผู้ว่าจ้างหลักคือกรมชลประทาน, กรมทรัพยากรน้ำ, และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
  3. กลุ่มงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
  4. กลุ่มงาน Pipe Jacking กับ HDD (Horizontal Directional Drilling)
    • ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่
  5. กลุ่มงานซ่อมสร้าง (งานซ่อมเป็นหลัก)
    • งานป้องกันลาดไหล่เขา (Slope Stabilization)
    • งานขุดดินและขุดหิน
    • งานสำรวจเจาะสำรวจธรณีวิทยา
    • งานปรับปรุงฐานรากเขื่อน (ทั้งเขื่อนใหม่และเขื่อนเก่า)
    • งานถนนสะพานและการเหมืองแร่ รวมถึงงานรถไฟ
    • มีแนวคิดจะให้บริการ Service ในงานซ่อมอุโมงค์ (กลุ่มงานระยะสั้น เก็บเงินเร็ว)

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ผลกระทบเชิงบวก: ธุรกิจของ RT ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการอุโมงค์รถไฟ ซึ่งมีงบประมาณจำนวนมากและต่อเนื่องในระยะยาว นอกจากนี้ การปรับกลยุทธ์เน้นงานระยะสั้นและการให้บริการซ่อมบำรุงยังช่วยเสริมสภาพคล่องของกิจการ

ผลกระทบเชิงลบ: ในปี 2565 บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับตัวและฟื้นตัวกลับมาได้ในปี 2566 และ 2567

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

RT มีโอกาสทางธุรกิจจากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย โดยเฉพาะงานอุโมงค์รถไฟและระบบขนส่งสาธารณะ บริษัทมีแผนจะประมูลงานโครงการใหญ่ๆ เช่น โครงการอุโมงค์กะทู้ป่าตองที่ภูเก็ต, โครงการอุโมงค์รถไฟรางคู่ปากน้ำโพ-เด่นชัย และโครงการอุโมงค์ในดินของการไฟฟ้านครหลวง

นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสในการให้บริการซ่อมบำรุงอุโมงค์ ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีการแข่งขันน้อยและมีศักยภาพในการเติบโต

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงหลักที่ RT เผชิญคือความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างและพลังงาน บริษัทมีแผนรับมือโดยการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับซัพพลายเออร์ และการเจรจาต่อรองราคาเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำที่สุด

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการโครงการ, ใช้ Value Engineering เพื่อลดต้นทุน, และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อวัสดุ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์เน้นงานระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องและลดความเสี่ยง

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

RT มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่มงานต่างๆ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ 20% ต่อปี และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 15% ภายในปี 2568

บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 807 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการขยายกิจการในอนาคต และชำระหนี้หุ้นกู้คืนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้

Project Overview

ปัจจุบัน Right Tunnelling ดำเนินงานในโครงการต่างๆ ดังนี้:

  • โครงการเด่นชัย-เชียงราย สัญญาที่ 1 (อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในไทย)
  • โครงการเด่นชัย-เชียงราย สัญญาที่ 2 (อุโมงค์แม่กา, ติดตั้งระบบ Waterproof Membrane)
  • โครงการอุโมงค์ส่งน้ำคลองทวีวัฒนา (กรุงเทพฯ, อุโมงค์ในดิน)
  • โครงการอุโมงค์ส่งน้ำคลองมหาสวัสดิ์ (GTN9A, การประปานครหลวง, อุโมงค์ในดิน)
  • โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง (สปป.ลาว)
  • โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก (เลย, รูปปั้นผีตาโขน)
  • โครงการคลองแอง จังหวัดตราด (ขุดร่องแกน, ปรับปรุงฐานรากเขื่อน)
  • โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง
  • โครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน สายสีเหลือง (ถนนศรีนครินทร์)
  • โครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน สายสีส้ม (ถนนเพชรบุรี)
  • โครงการเสริมความมั่นคงลาดไหล่เขา (แพ็กเกจ 3,4,5) เด่นชัย-เชียงราย สัญญา 2 (พะเยา) และ สัญญา 3 (เชียงราย)
  • โครงการ Slope Protection บนทางหลวงหมายเลข 1150 (แม่จารินหลวง)

Financial Highlights

  • Total Revenue (2567): 3,636 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15.4% จากปีก่อน)
  • Gross Profit Margin (2567): 14.0%
  • Net Profit Margin (2567): 2% (เป้าหมาย 2-3% ในอนาคต)
  • EBITDA (2567): 458 ล้านบาท (12.6% ของรายได้รวม)
  • D/E Ratio: 3.67 เท่า (ลดลงจาก 4.36 เท่าในปีก่อน)

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 44:18]

คำถาม: ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อกำไรขั้นต้นของบริษัทมีอะไรบ้าง และมีมาตรการจัดการอย่างไร?

คำตอบ: ปัจจัยหลักคือการจัดการบริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ, การใช้ Value Engineering, การวางแผนจัดซื้อวัสดุจำนวนมาก, และการ sourcing จากผู้ผลิตโดยตรงในต่างประเทศ รวมถึงการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวเพื่อลดความเสี่ยงจากราคาวัสดุที่ผันผวน

คำถาม: มีแผนประมูลเข้าโครงการใหญ่ๆ อะไรบ้าง?

คำตอบ: โครงการที่ติดตามอยู่คืองานก่อสร้างอุโมงค์ (กะทู้-ป่าตอง ภูเก็ต, รถไฟรางคู่ ปากน้ำโพ-เด่นชัย-เชียงใหม่) และงานอุโมงค์ในดินของการไฟฟ้านครหลวง

คำถาม: เป้าหมายรายได้และการเติบโตในอนาคต?

คำตอบ: ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% และมีกำไรขั้นต้นที่ 14-15% ส่วนกำไรสุทธิมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 2-3%

หัวข้อคำถามและคำตอบ:

  • ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อกำไรขั้นต้น
  • แผนการเข้าประมูลโครงการใหญ่
  • เป้าหมายรายได้และการเติบโตในอนาคต

โดยสรุป Right Tunnelling ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของธุรกิจในปี 2567 และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจนในอนาคต โดยเน้นการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

โพสต์ล่าสุด
บทความ
วันนี้ 11:30 น.
BIS Oppday Summary