บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

สรุป OPPDAY MEDEZE: วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2567 และทิศทางเติบโตปี 2568
P/E 25.54 YIELD 1.98 ราคา 8.10 (-0.61%)
สรุป OPPDAY MEDEZE: วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2567 และทิศทางเติบโตปี 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
บริษัท Medeze Group จํากัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจหลักด้าน Stem Cell และ NK Cell มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 645 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 879 ล้านบาทในปี 2567
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 147 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 339 ล้านบาทในปี 2567
บริษัทมีสินทรัพย์รวม 3,429 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 2,923 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 โดยไม่มีหนี้สินจากสถาบันการเงิน
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาด Stem Cell และ NK Cell ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการด้าน Healthcare และ Anti-Aging
บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น Stem Cell รากผม และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Robotic System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความเสี่ยงหลักของบริษัทคือภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
การแข่งขันในตลาด Stem Cell และ NK Cell ที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดต้นทุน และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
การลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูง และตอบสนองความต้องการของตลาด
การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น โรงพยาบาล และคลินิก เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัทคาดการณ์ว่าตลาด Stem Cell และ NK Cell จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และความต้องการด้าน Healthcare ที่เพิ่มขึ้น
บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาด Stem Cell และ NK Cell ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง และตอบสนองความต้องการของลูกค้า
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 26:55]
-
**IPO Funds Usage**
ถาม: ขอให้อัปเดตเรื่องเงิน IPO ว่าใช้ไปอะไรแล้วบ้าง
ตอบ: เงิน IPO 2,412 ล้านบาท ได้ใช้ไปดังนี้:
- ลงทุนใน Hair Follicle (Medis Hair Renaissance): 100 ล้านบาท
- ลงทุนใน Robotic System: 176.23 ล้านบาท (คงเหลือ 223 ล้านบาท)
- ใช้ใน Operating และ Investing (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์): 376 ล้านบาท (50 ล้านบาท/เดือน)
- คงเหลือ (31 ธันวาคม): 1,914.8 ล้านบาท
- คงเหลือ (กุมภาพันธ์): 1,825 ล้านบาท
-
**Growth Rate in Q1/2568**
ถาม: คิดว่าแนวโน้มอัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ในสภาวะเศรษฐกิจไม่ดีจะอยู่ประมาณเท่าไร
ตอบ: Q1 มักจะเป็นช่วง Low Season และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ, อย่างไรก็ตามคาดว่ายังเติบโต 20-30% เนื่องจากเทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ จะเข้ามาช่วยเสริม.
-
**Land Purchase and Investment Plans**
ถาม: รบกวนชี้แจงเหตุผลในการซื้อที่ดิน 30 ไร่ และแผนการลงทุน
ตอบ: ซื้อที่ดิน 30 ไร่ เตรียมไว้สำหรับขยายธุรกิจในอนาคต เช่น โรงงานผลิตยาและ Stem Cell. ปัจจุบันสำนักงานที่มีอยู่เต็มพื้นที่แล้ว.
-
**Market Size and Expectations (Hair Stem Cells)**
ถาม: คิดว่าตลาดของการจัดเก็บเซลล์รากผมมีขนาดเท่าไหร่ และบริษัทคาดหวังอย่างไร
ตอบ: ตลาดเซลล์รากผมน่าจะมีมูลค่าตลาด 2,000-4,000 ล้านบาท ต่อปี, Medeze คาดหวังส่วนแบ่งตลาด 2% หรือ 40-50 ล้านบาท ในช่วงเริ่มต้น.
-
**Government Support for Advanced Medical Products (ATMP)**
ถาม: เนื่องด้วยทางภาครัฐมีการผลักดันผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบอย่างไรกับบริษัทบ้าง
ตอบ: ภาครัฐมีนโยบายผลักดันผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMP), ซึ่งรวมถึง Stem Cell และ NK Cell, Medeze จะได้รับการสนับสนุน และส่งผลดีต่อการเติบโตในอนาคต.
- การใช้เงินทุนจากการ IPO (IPO Funds Utilization)
- อัตราการเติบโตในไตรมาส 1 ปี 2568 (Growth Rate Q1/2568)
- การซื้อที่ดิน 30 ไร่ และแผนการลงทุน (Land Purchase and Investment Plans)
- ขนาดตลาดและการคาดการณ์สำหรับสเต็มเซลล์รากผม (Market Size - Hair Stem Cells)
- การสนับสนุนผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูงของภาครัฐ (Government Support - ATMP)
โดยสรุป, Medeze Group มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและมีโอกาสในการเติบโตอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะในตลาด Stem Cell และ NK Cell. บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ. อย่างไรก็ตาม, บริษัทก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการแข่งขันที่สูงขึ้น. แต่บริษัทก็มีแผนที่จะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ และยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

njnong 47
????