https://aio.panphol.com/assets/images/community/3623_cb8da9.png

SEAFCO Oppday สรุปผลประกอบการปี 2566 และทิศทางธุรกิจปี 2567

P/E 1146.06 YIELD 1.52 ราคา 1.97 (-0.51%)

SEAFCO Oppday สรุปผลประกอบการปี 2566 และทิศทางธุรกิจปี 2567

สวัสดีครับ ผม ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด มหาชน พร้อมด้วยคุณเอนก ศรีทับทิม CEO ของบริษัท วันนี้เรามาออกงาน Opportunity Day เพื่อรายงานผลประกอบการประจำปี ซึ่งได้แจ้งเป็นทางการไปแล้ว และจะมาพูดถึงเรื่องที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต โดยผมจะขอเริ่มเลย ส่วนตัวเลขบัญชีจะให้คุณเอนกเป็นผู้นำเสนอ และผมจะมาพูดในส่วนท้ายและตอบคำถามครับ

คุณเอนกกล่าวว่า กลุ่มบริษัท ซีฟโก้ มีบริษัทร่วมอยู่ ได้แก่ ซีฟโก้ เอ็นเตอร์เทน ซึ่งตั้งมาเพื่อลงทุนในต่างประเทศ และ ซีฟโก้ เมียนมาร์ ซึ่งลงทุนในประเทศพม่า แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากความไม่สงบภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมี ซีฟโก้ คอนสตรัคชั่น ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างใต้ดิน

งานหลักของ ซีฟโก้ คือการทำเสาเข็ม โดยมีทั้งเสาเข็มกลม (ซ้ายมือสุด) และเสาเข็มเหลี่ยม หรือ Barrette Pile (ขวามือสุด) และมีกำแพงกันดิน (Diaphragm Wall) ซึ่งเป็นเหมือนกำแพงกั้นเมื่อลงไปในชั้นใต้ดิน

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

รายได้รวมปี 2566 อยู่ที่ 1,284.27 ล้านบาท มีกำไร 6 แสนบาท ในขณะที่ปี 2565 มีรายได้ 1,799.01 ล้านบาท และมีกำไร 167 ล้านบาท กำไรลดลงเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างไม่ค่อยดีในปี 2566

  • รายได้รวมลดลง 514.74 ล้านบาท คิดเป็น 28.61% เมื่อเทียบกับปี 2565
  • รายได้จากการรับเฉพาะค่าแรงลดลงจาก 729.79 ล้านบาท เหลือ 367.79 ล้านบาท
  • รายได้รวมวัตถุดิบหลักลดลงจาก 1,054.30 ล้านบาท เหลือ 901.91 ล้านบาท

Gross Profit ปี 2566 อยู่ที่ 96.51 ล้านบาท คิดเป็น 5.78% ลดลงจาก 323.32 ล้านบาท (18.10%) ในปี 2565 Net Profit ปี 2566 อยู่ที่ 6 แสนบาท (0.05%) ลดลงจาก 167.09 ล้านบาท (9.29%) ในปี 2565

EBITDA ในปี 2566 อยู่ที่ 137.22 ล้านบาท คิดเป็น 10.78% ลดลงจาก 363.56 ล้านบาท (20.36%) ในปี 2565

ปริมาณการเทคอนกรีตเฉลี่ยต่อเดือนในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 17,708.70 คิว เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 590.29 คิว

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทมี Backlog รวม ณ ปัจจุบัน (25 กุมภาพันธ์ 2567) อยู่ที่ 2,624.84 ล้านบาท โดย 27% เป็นงานภาคเอกชน และ 73% เป็นงานภาครัฐ

  • 27% เป็นงาน Labor and Material
  • 73% เป็นงาน Labor อย่างเดียว

มูลค่างานในตลาดที่บริษัทกำลังเก็บข้อมูลและพูดคุยกับเจ้าของโครงการ (Owner) มีอยู่ 14,598 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคเอกชน 5,578 ล้านบาท (38%) และภาครัฐ 9,020 ล้านบาท (62%)

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ความเสี่ยงหลักที่บริษัทเผชิญคือสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจก่อสร้าง ทำให้กำไรลดลง

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

บริษัทมุ่งเน้นการรักษาสภาพคล่อง และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

บริษัทคาดหวังว่าผลประกอบการจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป จากการเริ่มงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในมือ

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** [00:23:25]
  1. **คำถาม:** รถไฟฟ้าสายสีม่วงเมื่อ 2-3 ปีก่อน ได้งานมูลค่าทั้งหมดเท่าไหร่ และรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังเริ่มทำได้มูลค่าทั้งหมดเท่าไหร่?

    **คำตอบ:** สายสีม่วงเมื่อก่อนน่าจะประมาณ 800-900 ล้านบาท ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท แต่สายสีส้มตอนนี้ได้มา 6 สถานี ประมาณ 1,900 กว่าล้านบาท ตีว่า 2,000 ล้านบาท มากกว่าสายสีม่วงอีกเท่าตัว เหตุที่มากกว่าเพราะเดิมทำแค่ 3 สถานี แต่ตอนนี้เจ้าอื่นในตลาดเลิกไปบางราย งานเลยมาอยู่ที่ซิปโก้มากขึ้น

  2. **คำถาม:** รถไฟฟ้าสายสีม่วงเริ่มงาน 10% ช่วงเดือนอะไร?

    **คำตอบ:** จำไม่ได้แล้ว แต่ถ้าคิดง่ายๆ ถ้าง าน 12 เดือน 10% ก็น่าจะประมาณ 2 เดือนแรก ถ้าเริ่มลงมือเจาะเดือนเมษายน 10% ก็น่าจะสิ้นพฤษภาคม

  3. **คำถาม:** ปัจจุบัน Backlog มีมูลค่าทั้งหมดเท่าไหร่ งานที่อยู่ระหว่างเจรจามีมากหรือไม่ ส่วนมากเป็นงานอะไร?

    **คำตอบ:** Backlog ในมืออยู่ที่ 2,600 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้รวมงานอีกงานหนึ่งประมาณ 3-400 ล้านบาท ที่ได้มาแล้วแต่ EIA ยังไม่ออกมา ถ้ารวมแล้วประมาณ 2,900 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงานหน่วยงานเล็กๆ ที่ยังไม่เสร็จกำลังจะเสร็จ ซึ่งบางส่วนจะเอาไปเสริมกับงานรถไฟฟ้า บางส่วนก็ต้องไปบริการลูกค้าเดิม ตอนนี้เนื่องจากต้นปี นอกเหนือจากงานรถไฟฟ้าและงานที่ว่าไป รวมแล้วประมาณ 2,900 ล้านบาท น่าจะต้องได้อีก 5-600 ล้านบาท เพราะบางรายเรายังทิ้งลูกค้าไม่ได้ ถ้าเป็นลูกค้ารายใหม่ๆ ตอนนี้ปฏิเสธงานอยู่เกือบทุกวัน

  4. **คำถาม:** คาดว่า Q1/2567 กำลังการผลิตเท่าไร แนวโน้มเป็นอย่างไร มีโอกาสขาดทุนอยู่ไหม?

    **คำตอบ:** Q1/2567 อาจจะไม่ค่อยดี เพราะเป็นช่วงขนย้ายเครื่องจักร ไม่ใช่ช่วงสร้างผลผลิต อย่าไปคาดหวังอะไรมาก จะเริ่มเต็มที่ตั้งแต่ Q2 เป็นต้นไป

  5. **คำถาม:** ตั้งเป้ารายได้และ GPM เท่าไหร่?

    **คำตอบ:** ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วน GPM ต้องตามไปเป็นระยะๆ น่าจะดี เพราะรายได้ Backlog ที่พูดถึงเมื่อกี้ เฉพาะรถไฟฟ้า 1,900 ล้านบาท เป็นค่าแรงอย่างเดียว GPM ตัวนี้น่าจะดีมาก แต่เท่าไหร่ขอไม่พูดตอนนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นพูดตัวเลขที่มันเว่อร์เกินไป

  6. **คำถาม:** คาดว่า Backlog 2.6 พันล้านบาท จะรับรู้ในปีนี้สักกี่เปอร์เซ็นต์?

    **คำตอบ:** ไม่ทราบว่าจะรับรู้กี่เปอร์เซ็นต์ แต่คิดว่ารายได้ปีนี้ 2,000 ล้านบาท น่าจะต้องได้

  7. **คำถาม:** ราคาปูนที่ปรับขึ้นมีผลกระทบไหม และปูนขึ้นไปกี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนรวม?

    **คำตอบ:** รถไฟฟ้าไม่ได้รวมค่าปูนค่าเหล็กอยู่แล้ว งานเก่าๆ ล็อคราคาอยู่แล้วกำลังจะเสร็จ ถ้างานใหม่ก็ต้องปรับราคาใหม่ โดยภาพรวมไม่น่าจะกระทบอะไร

  8. **คำถาม:** อยากทราบเป้าหมายปี 2567 มีรายได้เท่าไหร่?

    **คำตอบ:** ตอบไปแล้ว คาดว่า 2,000 ล้านบาทน่าจะได้

  9. **คำถาม:** เรามีประเด็นด้านขาดแคลนคนงานไหม และศักยภาพคนงานที่สามารถรับงานได้ถึง Backlog เท่าไหร่?

    **คำตอบ:** ขณะนี้มีปัญหาอยู่ในช่วงสั้นๆ แต่โชคดีที่ตอนรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง Import แรงงานเข้ามา 500 คน หนีกลับไปบ้าง ยังเหลืออยู่ 400 ตอนนี้กำลังขอเพิ่มอีก 200 แต่รัฐบาลเมียนมาร์เข้มงวดมากขึ้น เพราะมีข่าวว่าแรงงานมาทำงานแล้วไม่ได้ค่าแรง แต่ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดคงมาได้ ตอนนี้เราดูหลายอย่าง ทั้งจำนวนเครื่องมือและคนงาน ในเรื่องเครื่องมือไม่มีปัญหา คนงานตอนนี้ก็ไม่มีปัญหา ส่วนที่ว่าจะไปเท่าไหร่ยังไม่กล้าบอก เพราะต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจด้วย

  10. **คำถาม:** หุ้นที่ซื้อคืนจะเอาออกตลาดไหม?

    **คำตอบ:** ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ แต่เวลาจ่ายเงินปันผล หุ้นก้อนนี้เราก็ไม่ได้จ่ายอยู่แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจจะมีโครงการให้ซื้อหุ้นเพิ่มเติมได้อีกนะ ต้องไปดูก่อน ส่วนเรื่องออกนอกตลาดหรือไม่นอกตลาด ยังไม่ได้ประชุมกัน

  11. **คำถาม:** ถ้า ราคาหุ้นยังต่ำอยู่ แล้วปีนี้บริษัทมีกำไรกลับมา มีแผนจะซื้อหุ้นหรือไม่

    **คำตอบ:** อันนี้ตอบไปแล้ว ยังไม่ได้คุยกัน

  12. **คำถาม:** การได้สิทธิบัตรล่าสุดจะสร้างโอกาสและข้อได้เปรียบทางธุรกิจอย่างไร?

    **คำตอบ:** การมีสิทธิบัตรน่าจะได้เปรียบบ้าง แต่ก่อนได้สิทธิบัตรเราก็ใช้วิธีการนี้ทำมาอยู่ระยะหนึ่งแล้ว เวลาได้งานก็จะเสนอวิธีทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Vibration น้อย รบกวนชาวบ้านน้อยลง ทำในเรื่องของ Green ทำในเรื่องของสิ่งแวดล้อม

  13. **คำถาม:** ตั้งแต่ต้นปีงานใหม่?

    **คำตอบ:** ตอบไปแล้ว 2,100 ล้าน

  14. **คำถาม:** รถไฟฟ้า ฟ้าสีส้ม 2 สถานี ที่รับเข้ามาใหม่มูลค่าเท่าไหร่ครับ?

    **คำตอบ:** 800 กว่าเกือบ 900 ล้านบาท

สรุปโดยรวม ซีฟโก้เผชิญความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ยังคงมีโอกาสจาก Backlog ที่มีอยู่ และการมุ่งเน้นงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และคาดหวังผลประกอบการที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป

โพสต์ล่าสุด