บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

สรุป Oppday หุ้น BIZ: มองผลประกอบการปี 67 และทิศทางอนาคตธุรกิจเครื่องมือแพทย์

สรุป Oppday หุ้น BIZ: มองผลประกอบการปี 67 และทิศทางอนาคตธุรกิจเครื่องมือแพทย์

Business Alignment หรือ BIZ ดำเนินธุรกิจนำเข้าเครื่องมือแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องฉายแสงรักษามะเร็ง และให้บริการครบวงจรตั้งแต่การจัดหาเครื่องมือ การสำรวจพื้นที่ การก่อสร้าง และการบำรุงรักษา

• ผลประกอบการปี 2567: ยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท
• รายได้หลักมาจากการขายเครื่องฉายแสง (75%) และบริการหลังการขาย (21%) ส่วนที่เหลือมาจากงานก่อสร้างและอื่นๆ
• บริษัทมีความภาคภูมิใจในเรื่องของผลกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงถึงการจัดการบริหารที่เป็นที่น่าพอใจ

บริษัทขยายธุรกิจไปสู่การให้บริการเกี่ยวกับการฉายแสงและการให้เคมีบำบัด โดยถือหุ้นในโรงพยาบาลเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง (ถือหุ้น 75%)

• อีกทั้งยังมีบริการตรวจพันธุกรรม ทั้งในด้านการวินิจฉัยโรคและไลฟ์สไตล์
• บริษัทมี backlog อยู่ที่ 1,360 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม

การแข่งขันในตลาดเครื่องมือแพทย์ที่สูงขึ้น โดยมีคู่แข่งจากยุโรป อเมริกา และจีน

• ข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในภูมิภาคต่างๆ เนื่องจากเครื่องมือส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
• ความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งบริษัทมีการป้องกันความเสี่ยงโดยการซื้อค่าเงินไว้ล่วงหน้า

บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงทางการเงิน โดยการซื้อค่าเงินเพื่อป้องกันผลกระทบจากความผันผวน

• มุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานและบริการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
• ขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

บริษัทคาดหวังว่าจะสามารถทำผลประกอบการได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

• บริษัทมีแผนที่จะจ่ายเงินปันผล 0.35 บาทต่อหุ้น (35 สตางค์) โดยกำหนดจ่ายวันที่ 7 พฤษภาคม 2568
• บริษัทเปิดโอกาสในการร่วมทุนกับโรงพยาบาลเอกชนหรือรัฐ เพื่อสร้างรายได้ในการฉายแสง
• เทคโนโลยีด้านการแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บริษัทมีกระบวนการปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

1. Backlog ที่โชว์ 1,360 ล้านบาทรวมงานประกาศตอนมีนาคมอีก 590 ล้านบาทหรือไม่

รวมแล้ว และเป็นผลรวม backlog ทั้งหมดที่บริษัทมี ณ ปัจจุบัน

2. รวมกับ MA หรือไม่

ไม่รวม backlog ของบริษัทคือเครื่องที่ขายได้หรือโครงการที่ขายได้ อยู่ระหว่างการติดตั้ง ส่วน MA ไม่เกี่ยวข้อง เป็นการขายสัญญาบริการให้กับโรงพยาบาล

3. รายได้จากการบริการหลังการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใดในปีนี้

อาจจะไม่เพิ่มมาก เพราะขึ้นอยู่กับว่าเครื่องที่ขายไปยังอยู่ใน warranty หรือไม่ การเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องที่มี แต่โดยปกติปัจจุบันตัวเลขอยู่ประมาณ 4-500 อาจจะเพิ่มขึ้นได้นิดหน่อย

4. Timeline ในการส่งมอบงานปีนี้เป็นอย่างไร Low season และ peak ช่วงใด

ไม่อยากให้ดู Q by Q เพราะอาจจะส่งมอบไม่ได้ อยากให้ดูทั้งปี ในสัญญาที่เขียนไว้ประกาศไว้ว่าจะส่งมอบเมื่อไหร่ โดยปกติ 99% ไม่เคยส่งมอบราช้ากว่าที่ประกาศ อย่าไปดู Q by Q อาจจะทำให้แปลผลผิด

5. งานภาคเอกชนมีแนวโน้มอย่างไร เติบโตหรือไม่

เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโต แต่เครื่องต่างๆ เหล่านี้ลงไปแล้วทางด้านเอกชนอาจจะไม่ได้ขยายงานมากนักเมื่อเทียบกับภาครัฐ

6. Backlog รวม service หรือไม่

ไม่รวม เมื่อไหร่ก็ตามที่ประกาศ backlog นั่นหมายความว่าเป็น order ที่มีการเซ็นสัญญากับคู่ค้าแล้ว

7. มีโอกาสปันผลเพิ่มระหว่างปีไหม

ถ้าในฐานะผู้ถือหุ้น ถ้ามีโอกาสก็อยาก แต่ต้องดูว่ามีการใช้ทุนทรัพย์อย่างไร โดยปกติมีการจ่ายปันผลทุกปีนอนสิ้นปี

8. โรงพยาบาลคิดว่าปีนี้จะมองเป้าหมายรายได้อย่างไร

โรงพยาบาลมีธุรกิจ 2 ตัวคือการฉายแสงกับการให้เคมีบำบัด ตอนนี้ในเรื่องของการให้เคมีบำบัดยังไม่ได้เป็นไปตามเป้ามากนัก ในส่วนการฉายแสงนั้นถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี โตเกินที่คาด

9. โรงพยาบาลมะเร็งจะเพิ่มจำนวนเครื่องอีกหรือไม่ในปี 68

ตามแผนมีการมองอยู่ แต่ตอนนี้ในเชิงของการแข่งขันภาคเอกชนในแถบนั้นจะมีการเพิ่มมากขึ้น คงต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาและศึกษาดู ถ้ามีโอกาสในเชิงของธุรกิจ เราคงต้องขอดูจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในเชิงธุรกิจเอง คงต้องขอดูอีกที

10. ในระหว่างปีมีแผนงานในการเข้าประมูล

ปกติไล่ timeline ตามราชการ โดยทั่วไปมีการเปิดซองไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ยังคงมีอยู่ ตอนนี้มีการเข้าเปิดซองหรือในการเข้าประมูลทั้งเอกชนและรัฐ โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาครัฐ ก็มีได้บ้างเสียบ้างโดยปกติ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในกระบวนการอยู่อีก 800-1,000 ล้านบาท

11. MA ที่ผู้บริหารแจ้งส่วนมากเป็นการบริการต่อเนื่องกี่เปอร์เซ็นต์

เครื่องรังสีรักษาเป็นเครื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาต่อเนื่องให้กับผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มาฉายแสงจะมีการต่อเนื่อง ดังนั้นโดยส่วนใหญ่เกือบ 100% โรงพยาบาลเองจำเป็นจะต้องซื้อ service contract เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเครื่องจะสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ตลอดอายุของเครื่อง

12. เมื่อโรงพยาบาลซื้อเครื่องต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกๆ กี่ปี

เครื่องมีอายุการใช้งาน 12-15 ปีขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามา การตั้งงบประมาณของทางภาครัฐเองหรือเอกชนเองก็จะมีขึ้นอยู่กับลักษณะแบบนี้ ตลาดจะมี 2 แบบ คือตลาดใหม่ๆ หมายความว่าโรงพยาบาลนั้นอาจจะไม่เคยมีเครื่องเลย หรือมีอยู่แล้ว 1 เครื่องจะขยายเป็น 2 เครื่อง กับตลาดอีกอันหนึ่งคือ Replace คือการทดแทนเครื่องที่มีอยู่แล้ว ตอนนี้ตลาดเครื่องใหม่ก็ยังพอมีอยู่ แต่ตลาดเครื่องเก่าพอถึงระยะเวลาจะมีการทดแทนเครื่อง

13. การรับรู้รายได้จากการขายเครื่องจะแบ่งกัน

จะรับรู้เป็นช่วงๆ การขายเครื่องถือว่าเป็นการขายคือติดตั้งและจะเก็บเงิน เรากำลังพูดถึงในหน่วยงานราชการ เราจะรับรู้รายได้ต่อเมื่อเราส่งมอบแล้วเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นราชการหรือเอกชน ลักษณะจะคล้ายกัน เพราะเราไม่สามารถรับรู้รายได้ได้ อย่างเช่นเงินที่ได้มาจากการมัดจำบางเคสบางกรณี เราก็ไม่สามารถรับรู้รายได้แต่เพียงรับเป็นเงินเป็นลักษณะหนี้ขึ้นมาเฉยๆ โครงการของเราตามหลักบัญชีจึงต้องรับรู้ทั้งก้อนเมื่อมีการส่งมอบแล้วเท่านั้น

14. ค่าเงินในช่วงระหว่างปีเพิ่มขึ้นหรือลดลง

มีการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของค่าเงินคือการซื้อค่าเงินไว้ เมื่อมีการเซ็นสัญญาปุ๊บก็จะมีการดำเนินการป้องกันเรื่องความเสี่ยงของการผันผวนเรื่องค่าเงิน ในการดำเนินงานมาเกือบ 20 ปี มีการจำกัดความเสี่ยงด้วยการซื้อและบริหารการเงินตรงนี้

15. อุตสาหกรรมนี้มีคู่แข่งเข้ามาเพิ่มไหม

เริ่มมี แต่โดยส่วนใหญ่ในเรื่องของการฉายแสงจะมี 2 ค่ายใหญ่ๆ คือยุโรปและอเมริกา ตอนนี้ทางจีนก็อาจจะเริ่มมา จะทำให้เกิดอุตสาหกรรมนี้เจริญเติบโตขึ้น และมีการแข่งขัน การแข่งขันก็ดีจะทำให้สุดท้ายผู้รับบริการจะได้เกิดประโยชน์สูงสุดในเรื่องของการบริการและคุณภาพของเครื่อง ทำให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพมากขึ้น

16. จะมีโอกาสร่วมทุนกับโรงพยาบาลเอกชนหรือรัฐเพื่อสร้างรายได้ในการฉายแสง

มีโครงการแต่บางครั้งในภาครัฐอาจจะติดขัดในเรื่องของข้อกำหนดหรือข้อกฎหมาย ส่วนของเอกชนเองก็เข้าใจได้ บางทีก็จะมีข้อตกลงอะไรต่างๆ อันนี้ก็ถามว่ามีไหมก็คงอาจจะมี แต่ก็คงต้องดูว่าทั้งบริษัทที่จะไปลงหรืออะไรต่างๆ นั้นเหมาะหรือไม่ ถ้าเปิดโอกาสทั้งหมด

17. เทคโนโลยีการเครื่องมีการเปลี่ยนแปลง

ในวงการนี้มาเป็น 30-40 ปี การบริการต่างๆ ไม่จำเป็นต้องวงการลักษณะการฉายแสง เครื่องมือด้านการแพทย์สิ่งที่ดีอย่างนึงคือในเชิงของการทำธุรกิจ ความหมายคือว่า ในเชิงของการแพทย์ในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอะไรต่างๆ หลายคนบอกว่า เดี๋ยว AI มาสร้าง เข้าใจได้ แต่สิ่งที่จะมา prove แล้วจะมาใช้ดังไรก็ตามต้องใช้เวลา เพราะว่าเราไม่มั่นใจหรอกว่าสิ่งที่ทำ ณ วันนี้อาจจะมี long term effect หรือไม่ เพราะทางด้านการแพทย์เรากลัวคือในเรื่องของ long term effect short term effect อาจจะไม่มี แต่ long term effect อาจจะมี ดังนั้น ในเชิงของการแพทย์ทุก product หรือว่าทุกเทคโนโลยี จะมี timing ของมันประมาณ 3-5 ปีให้เราปรับตัว ถามว่าในอนาคตจะมีไหม ณ ปัจจุบันในมุมมองยังคงไม่มี แต่ถ้ามีแล้วเราก็ยังมีเวลาที่จะปรับตัวหรือปรับเปลี่ยนตัวเองได้ โชคดีของทางด้านการแพทย์คือเมื่อมีการเทคโนโลยีอะไรก็ตามที่จะเข้ามาใช้รักษาเนี่ย ไม่ใช่อยู่ๆ ปุ๊บปั๊บจะใช้งานได้ เพราะมันจะต้องมีการทดลอง ทั้งกับบนหลอดทดลองในเรื่องของการกับคน และกว่าจะมาถึงขออภัย sound ทดลองและใช้คน มันจะมีเวลาของมันอยู่ ซึ่งไม่สามารถเร่งรัด เพราะว่าการแพทย์นั้นเป็นวิธีการที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน

18. ในประเทศไทยมีจำนวนเครื่องเท่าไหร่ และคิดว่าประชากรต่อเครื่องควรจะเป็นอย่างไร

เครื่องมีอยู่ประมาณ 130 เครื่องทั่วประเทศ แต่ข้อจำกัดคือการกระจุกตัวอยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีมากกว่า 50-60% ไม่ว่าจะเป็นด้านของรัฐเองหรือเอกชนเอง ข้อจำกัดตรงนี้มันส่งผลในเรื่องของการเข้าถึงของผู้ป่วย เพราะว่าการรักษาโรคมะเร็งด้วยการฉายแสงเนี่ยประเด็นของเขาในความท้าทายก็คือว่า ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องมารักษาหรือการฉายแสงเป็นเวลาระยะเวลาหนึ่ง เช่นเดือนถึงเดือนครึ่ง การกระจายของเครื่องไปยังภูมิภาคต่างๆ จึงมีส่วนสำคัญด้วยที่จะทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงเทคโนโลยีพวกนี้ได้ อันนี้ก็ถือว่าตอนนี้ประเทศไทยเราก็ยังขาดตรงนี้ แต่เชื่อว่ารัฐบาลเองก็มีนโยบายต่างๆ เหล่านี้ อาจจะทำให้การเข้าถึงของเทคโนโลยีด้านนี้ สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ด้านนอกหรือว่าอยู่ขอบๆ ประเทศเนี่ย ก็สามารถที่จะเข้าถึงได้มากขึ้นแล้วก็รักษาได้มากขึ้น

19. มีกรณีแบบมี backlog แล้วไม่ได้ส่งมอบหรือไม่

ถ้ามี backlog นั่นคือเรามีสัญญา และมีสัญญาหมายความว่าเราต้องส่งมอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาล เท่าที่ผ่านมาในอดีตถึงปัจจุบัน ไม่เคยว่าไม่มี backlog แล้วไม่สามารถส่งมอบ

โดยสรุป, BIZ ยังคงมุ่งมั่นในการเติบโตในธุรกิจเครื่องมือแพทย์และการให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยมีการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง