บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป OPPDAY TTB: กลยุทธ์ฟื้นฟูท่ามกลางความท้าทาย และโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2567
P/E 9.02 YIELD 6.83 ราคา 1.95 (0.00%)
สรุป OPPDAY TTB: กลยุทธ์ฟื้นฟูท่ามกลางความท้าทาย และโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2567
สรุปผลการดำเนินงาน TTB ปี 2024 โดยเน้นภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ โอกาส และความเสี่ยง รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาและแนวโน้มในอนาคต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- ผลกระทบเชิงลบ: การเติบโตของสินเชื่อยังคงยากลำบาก โดยเฉพาะในส่วนของ Retail เนื่องจากหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ตลาดบ้านและรถยนต์หดตัวค่อนข้างแรง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ TTB ในฐานะผู้นำตลาด
- ตัวเลขทางการเงิน: สินเชื่อรวมหดตัวราว 7% ตลอดทั้งปี
- ปัจจัยภายนอก: สภาพตลาดที่ท้าทายและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- ปัจจัยภายใน: การปรับ Business Model หลังรวมกับธนาคารธนชาต ทำให้ Free Base ผูกกับ New Loan Booking มากขึ้น
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- โอกาส: การเติบโตในกลุ่ม Top-Up Loan ที่มีคุณภาพ เช่น สินเชื่อ Casual Car, Casual Home และ Personal Loan
- กลยุทธ์: เน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ (Selectively Grow) ในกลุ่มที่มีศักยภาพ
- ตลาดใหม่: การขยายไปยังสินเชื่อที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Loan (Non-Related Loan) เช่น บัตรเครดิต ซึ่งมีการเติบโตถึง 19% YoY
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ความเสี่ยง: ความท้าทายในการเติบโตของค่าธรรมเนียม (Fee Income) เนื่องจากการปรับ Accounting ในการนับ Access Fee ของประกัน
- ผลกระทบ: การหดตัวของสินเชื่อใหม่ส่งผลให้ Fee ที่ผูกกับ Loan ลดลง เช่น Credit Shield สำหรับ SME และ MRTA สำหรับสินเชื่อบ้าน
- ความเสี่ยงภายนอก: สภาพตลาดที่ท้าทายในการเติบโตของ Mutual Fund และประกันภัย
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- กลยุทธ์: ปรับกลยุทธ์ของธนาคารเพื่อเติบโตในสินเชื่อ Top-Up ที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดี
- การบริหารต้นทุน: ปรับลดต้นทุนทางการเงิน โดยการออก Debenture ใหม่ในขนาดที่เล็กลง และ Redeem AT1 ที่มีต้นทุนสูง
- การบริหารจัดการ Portfolio: พยายาม Clean Portfolio โดยการ Write-Off หรือ Sell สินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- แนวโน้ม: คาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อ (Loan Growth) อย่างระมัดระวัง และมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มที่มีคุณภาพ
- เป้าหมาย: เพิ่ม Dividend Payout Ratio และทำ Share Buyback เพื่อ Return More to Shareholders
- นวัตกรรม: พัฒนา Digital Platform (TTB Touch) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและลดต้นทุน
- วิสัยทัศน์: มุ่งสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่ [00:37:25]
-
ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยขาลง:
- คำถาม: อัตราดอกเบี้ยที่น่าจะเริ่มเป็นวัฏจักรขาลง คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของธนาคารมากน้อยแค่ไหน?
- คำตอบ: อัตราดอกเบี้ยขาลงมีผลกระทบเชิงลบต่อ Banking Sector แต่ TTB ค่อนข้างดีกว่าธนาคารอื่น เพราะมี Fixed Rate Port ของรถยนต์กว่า 30% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ย (MR Rate Cut) ก็ส่งผลกระทบต่อธนาคารแน่นอน แต่มี Strategy เติบโตใน Higher Yielding Assets เพื่อประคองความกดดัน
-
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปีนี้:
- คำถาม: ธนาคารมีมุมมองแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปีนี้อย่างไร?
- คำตอบ: Target Guidance ของปี 2025 คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก 2 ครั้ง
-
การเพิ่ม Dividend Payout และ Share Buyback:
- คำถาม: การที่ธนาคารเลือกทำอย่างนี้ แปลว่าศักยภาพในการเติบโต Loan Growth ในระยะกลางมีค่อนข้างต่ำหรือไม่ และราคาหลักทรัพย์ของ TTB ไม่สะท้อนศักยภาพของธนาคารหรือไม่?
- คำตอบ: ในระยะสั้น การเติบโต Loan Growth ค่อนข้างท้าทาย ทำให้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ Capital ในการเติบโตสินเชื่อมากนัก Valuation ของธนาคารค่อนข้างต่ำ การทำ Share Buyback จึงเป็น Tool ที่เหมาะสม นอกจากนี้ การเพิ่ม Dividend Payout ก็เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุนบางกลุ่ม
-
ปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบ Earnings:
- คำถาม: ปีนี้มองปัจจัยเสี่ยงที่จะสามารถกระทบ Earnings เป็นอะไรบ้าง?
- คำตอบ: ความเสี่ยงหลักคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วน Fee Income ตั้งเป้า Single Digit ซึ่งน่าจะบริหารจัดการได้ Overall Guidance ในเวลานี้ไม่น่ามีการปรับเป้า ความเสี่ยงน่าจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้มากกว่า เช่น เรื่อง Rate Cut
-
การบริหารจัดการ NPL:
- คำถาม: การบริหารจัดการ NPL เป็นอย่างไรบ้าง?
- คำตอบ: บริหารจัดการค่อนข้างควบคุมได้ ตอนนี้ไม่เห็นการ Spike อะไรที่น่ากลัว มีโปรแกรม "คุณสู้ เราช่วย" ร่วมกับสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารชาติ และรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่อ่อนแอ
-
อสังหาริมทรัพย์ปีนี้:
- คำถาม: อสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเผชิญความท้าทายมากขึ้นไหม ธนาคารจะมีผลกระทบอะไรบ้าง?
- คำตอบ: อสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมาสักพักแล้ว ตลาดหดตัว Demand หายไปจากตลาด กลุ่มระดับล่างกู้ไม่ผ่าน กลุ่มระดับบนชะลอการตัดสินใจ ต้องดูภาพรวมว่าจะมี Policy อะไรกลับมาช่วยให้ตลาดฟื้นตัวหรือไม่
-
Retain ลูกค้าปัจจุบัน:
- มุมมอง TTB: พยายาม Retain ลูกค้าปัจจุบันให้เพิ่มมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์ผูกกับผลิตภัณฑ์ Mortgage ของธนาคาร จังหวะของการ Refinance ในขาของลูกค้าปัจจุบันของธนาคารก็คงเป็น Area ที่เราต้องพยายามที่จะ Retain กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ที่มี Repayment ที่ตรงเวลาให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นช่องในการที่จะพยายามที่จะไปดึงดูดลูกค้าที่มี Behavior ที่ดีกับจาก Player อื่นๆ ได้มากขึ้น
โดยสรุป TTB เผชิญกับความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจและตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ การบริหารจัดการต้นทุน และการเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ผ่านการปรับกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและให้ความสำคัญกับการพัฒนา Digital Platform อย่างต่อเนื่อง
โพสต์ล่าสุด
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:42 น.
AMATA: KS มองบวกปี 69 ยอดขายที่ดินพุ่ง แม้มีปัจจัยลบ
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:42 น.
STGT กำไรปี 68 เสี่ยง! กูรูหั่นเป้า เหตุแข่งเดือด
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:42 น.
HANA: KS ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2570 ราคาเป้าหมายใหม่ 17.00 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) กำไรระยะสั้นฟื้น แต่ระยะยาวน่ากังวล KSecurities ลดราคาเป้าหมายเหลือ 16.67 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
RCL กำไรแกร่งท่ามกลางแรงกดดัน! KSecurities ชี้เป้า 28.50 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
SCGP: KS มองแนวโน้มปี 68 ปรับตัวดีขึ้น คงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 33 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
MEGA: KS มองแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ปรับประมาณการกำไรขึ้น
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
PRM เตรียมขยายสู่ตลาดโลก! หยวนต้าชี้เป้าราคา 9 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:41 น.
AURA: โอกาสทองคำยังคงอยู่ โบรกเกอร์ GLOBLEX ชี้เป้า 21.40 บาท
บทความ
3 วันที่แล้ว 06:40 น.