https://aio.panphol.com/assets/images/community/3471_9cda8b.png

สรุป OPPDAY TTB: กลยุทธ์ฟื้นฟูท่ามกลางความท้าทาย และโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2567

P/E 9.16 YIELD 6.73 ราคา 1.98 (0.00%)

สรุป OPPDAY TTB: กลยุทธ์ฟื้นฟูท่ามกลางความท้าทาย และโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2567

สรุปผลการดำเนินงาน TTB ปี 2024 โดยเน้นภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ โอกาส และความเสี่ยง รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาและแนวโน้มในอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ผลกระทบเชิงลบ: การเติบโตของสินเชื่อยังคงยากลำบาก โดยเฉพาะในส่วนของ Retail เนื่องจากหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ตลาดบ้านและรถยนต์หดตัวค่อนข้างแรง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ TTB ในฐานะผู้นำตลาด
  • ตัวเลขทางการเงิน: สินเชื่อรวมหดตัวราว 7% ตลอดทั้งปี
  • ปัจจัยภายนอก: สภาพตลาดที่ท้าทายและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
  • ปัจจัยภายใน: การปรับ Business Model หลังรวมกับธนาคารธนชาต ทำให้ Free Base ผูกกับ New Loan Booking มากขึ้น

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • โอกาส: การเติบโตในกลุ่ม Top-Up Loan ที่มีคุณภาพ เช่น สินเชื่อ Casual Car, Casual Home และ Personal Loan
  • กลยุทธ์: เน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ (Selectively Grow) ในกลุ่มที่มีศักยภาพ
  • ตลาดใหม่: การขยายไปยังสินเชื่อที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Loan (Non-Related Loan) เช่น บัตรเครดิต ซึ่งมีการเติบโตถึง 19% YoY

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ความเสี่ยง: ความท้าทายในการเติบโตของค่าธรรมเนียม (Fee Income) เนื่องจากการปรับ Accounting ในการนับ Access Fee ของประกัน
  • ผลกระทบ: การหดตัวของสินเชื่อใหม่ส่งผลให้ Fee ที่ผูกกับ Loan ลดลง เช่น Credit Shield สำหรับ SME และ MRTA สำหรับสินเชื่อบ้าน
  • ความเสี่ยงภายนอก: สภาพตลาดที่ท้าทายในการเติบโตของ Mutual Fund และประกันภัย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • กลยุทธ์: ปรับกลยุทธ์ของธนาคารเพื่อเติบโตในสินเชื่อ Top-Up ที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดี
  • การบริหารต้นทุน: ปรับลดต้นทุนทางการเงิน โดยการออก Debenture ใหม่ในขนาดที่เล็กลง และ Redeem AT1 ที่มีต้นทุนสูง
  • การบริหารจัดการ Portfolio: พยายาม Clean Portfolio โดยการ Write-Off หรือ Sell สินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • แนวโน้ม: คาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อ (Loan Growth) อย่างระมัดระวัง และมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มที่มีคุณภาพ
  • เป้าหมาย: เพิ่ม Dividend Payout Ratio และทำ Share Buyback เพื่อ Return More to Shareholders
  • นวัตกรรม: พัฒนา Digital Platform (TTB Touch) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและลดต้นทุน
  • วิสัยทัศน์: มุ่งสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่ [00:37:25]

  1. ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยขาลง:
    • คำถาม: อัตราดอกเบี้ยที่น่าจะเริ่มเป็นวัฏจักรขาลง คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของธนาคารมากน้อยแค่ไหน?
    • คำตอบ: อัตราดอกเบี้ยขาลงมีผลกระทบเชิงลบต่อ Banking Sector แต่ TTB ค่อนข้างดีกว่าธนาคารอื่น เพราะมี Fixed Rate Port ของรถยนต์กว่า 30% ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ย (MR Rate Cut) ก็ส่งผลกระทบต่อธนาคารแน่นอน แต่มี Strategy เติบโตใน Higher Yielding Assets เพื่อประคองความกดดัน
  2. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปีนี้:
    • คำถาม: ธนาคารมีมุมมองแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปีนี้อย่างไร?
    • คำตอบ: Target Guidance ของปี 2025 คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก 2 ครั้ง
  3. การเพิ่ม Dividend Payout และ Share Buyback:
    • คำถาม: การที่ธนาคารเลือกทำอย่างนี้ แปลว่าศักยภาพในการเติบโต Loan Growth ในระยะกลางมีค่อนข้างต่ำหรือไม่ และราคาหลักทรัพย์ของ TTB ไม่สะท้อนศักยภาพของธนาคารหรือไม่?
    • คำตอบ: ในระยะสั้น การเติบโต Loan Growth ค่อนข้างท้าทาย ทำให้ยังไม่จำเป็นต้องใช้ Capital ในการเติบโตสินเชื่อมากนัก Valuation ของธนาคารค่อนข้างต่ำ การทำ Share Buyback จึงเป็น Tool ที่เหมาะสม นอกจากนี้ การเพิ่ม Dividend Payout ก็เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุนบางกลุ่ม
  4. ปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบ Earnings:
    • คำถาม: ปีนี้มองปัจจัยเสี่ยงที่จะสามารถกระทบ Earnings เป็นอะไรบ้าง?
    • คำตอบ: ความเสี่ยงหลักคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วน Fee Income ตั้งเป้า Single Digit ซึ่งน่าจะบริหารจัดการได้ Overall Guidance ในเวลานี้ไม่น่ามีการปรับเป้า ความเสี่ยงน่าจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้มากกว่า เช่น เรื่อง Rate Cut
  5. การบริหารจัดการ NPL:
    • คำถาม: การบริหารจัดการ NPL เป็นอย่างไรบ้าง?
    • คำตอบ: บริหารจัดการค่อนข้างควบคุมได้ ตอนนี้ไม่เห็นการ Spike อะไรที่น่ากลัว มีโปรแกรม "คุณสู้ เราช่วย" ร่วมกับสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารชาติ และรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่อ่อนแอ
  6. อสังหาริมทรัพย์ปีนี้:
    • คำถาม: อสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเผชิญความท้าทายมากขึ้นไหม ธนาคารจะมีผลกระทบอะไรบ้าง?
    • คำตอบ: อสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมาสักพักแล้ว ตลาดหดตัว Demand หายไปจากตลาด กลุ่มระดับล่างกู้ไม่ผ่าน กลุ่มระดับบนชะลอการตัดสินใจ ต้องดูภาพรวมว่าจะมี Policy อะไรกลับมาช่วยให้ตลาดฟื้นตัวหรือไม่
  7. Retain ลูกค้าปัจจุบัน:
    • มุมมอง TTB: พยายาม Retain ลูกค้าปัจจุบันให้เพิ่มมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์ผูกกับผลิตภัณฑ์ Mortgage ของธนาคาร จังหวะของการ Refinance ในขาของลูกค้าปัจจุบันของธนาคารก็คงเป็น Area ที่เราต้องพยายามที่จะ Retain กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ที่มี Repayment ที่ตรงเวลาให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นช่องในการที่จะพยายามที่จะไปดึงดูดลูกค้าที่มี Behavior ที่ดีกับจาก Player อื่นๆ ได้มากขึ้น

โดยสรุป TTB เผชิญกับความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจและตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ การบริหารจัดการต้นทุน และการเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ผ่านการปรับกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและให้ความสำคัญกับการพัฒนา Digital Platform อย่างต่อเนื่อง

โพสต์ล่าสุด