https://aio.panphol.com/assets/images/community/3293_d89bac.png

สรุป Oppday CPANEL: ทิศทางใหม่, โอกาสเติบโต, และความท้าทายในตลาดอสังหาฯ ปี 2568

P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 2.22 (0.00%)

สรุป Oppday Cpanel: ทิศทางใหม่, โอกาสเติบโต, และความท้าทายในตลาดอสังหาฯ ปี 2568

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ภาพรวมการประกอบธุรกิจของ Cpanel ในปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในการนำเสนอสินค้าและบริการไปยังลูกค้า การผลิตได้เริ่มดำเนินการในโรงงานแห่งใหม่ (โรง 2) แม้ว่าจะยังมีการปรับจูนอยู่บ้าง นอกจากนี้ Cpanel ยังคงเป็นผู้ผลิต fully automation และผู้ให้บริการ integration software ด้วยระบบ Supply Chain

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการที่ Cpanel เป็นผู้ผลิตที่มี special element ที่ผลิตเอง 100% ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มที่จะนำไปประกอบเป็นอาคารที่มีความเป็นสถาปัตยกรรมสูง ซึ่งมักใช้ในโครงการแนวราบ

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของ special element มีการขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก Cpanel เข้าไปเจาะตลาด integration market มากขึ้น ในขณะที่ตลาดแนวราบมีการชะลอตัว (slow down) ทำให้กลุ่มลูกค้าของ Cpanel เปลี่ยนไปทางคอนโดมิเนียมและอาคารพลิตภัณฑ์มากขึ้น ทำให้สัดส่วนของ automation ในงานคอนโดมีสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้น จากเดิม automation อยู่ที่ 80-85% เพิ่มขึ้นเป็น 90% ในขณะที่ special element ลดลงจาก 15-18% เหลือ 9% กว่าๆ

ในปีนี้ Cpanel จะเน้นการรับงานอาคารสูงและคอนโดมากขึ้น ทั้ง fully prefab และงานคอนโด high-rise ที่มี facade มากขึ้น ทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ

ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Cpanel เดิมเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ในปัจจุบันเริ่มมีกลุ่ม contractor เข้ามามากขึ้น ซึ่งจะทำทั้งงานอาคารสูงของเอกชนและงานรัฐ

สัดส่วนของงานอาคาร (สีเหลืองในพายชาร์ต) จะมีสัดส่วนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 20-30% ของพอร์ต หรืออาจสูงกว่านั้น

หากพิจารณาตามประเภทแนวราบและแนวสูง แนวราบเคยเป็น majority ของ Cpanel โดยมีสัดส่วนประมาณ 90% ในปี 2565 แต่ในปี 2567 แนวสูงเพิ่มขึ้นมาเป็น 20% และคาดว่าปีนี้แนวสูงจะสูงกว่า 20% หรืออาจถึง 30-40% ของพอร์ต

ในส่วนของแนวราบ Cpanel จะเริ่มเข้าสู่ตลาดที่ niche มากขึ้น โดยจะเข้าสู่ตลาด Central District Luxurious Home มากขึ้น ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างในเมืองและเป็นบ้านกลุ่มขนาดใหญ่

U rate ในปีที่แล้วถือว่าเป็น bottom ของ Cpanel เนื่องจากพึ่งพาตลาดแนวราบมาตลอด และเผชิญกับความผันผวนในตลาด ทำให้งานในไตรมาส 3-4 เลื่อนมาเริ่มในไตรมาส 1 ของปีนี้

Backlog ของ Cpanel อยู่ที่ 1,528 ล้านบาท ซึ่งเป็น New High โดยงานที่เข้ามาใหม่เป็นกลุ่มตลาดใหม่ๆ เกือบ 100% เช่น fully prefab คอนโด, งานรัฐ, และ facade ซึ่งไม่ได้อยู่ใน portfolio เดิม

สรุปข้อมูลทางการเงิน ปีที่แล้วผลประกอบการลดลงค่อนข้างมากเนื่องจากตลาดก่อสร้าง Precast ยังมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ conventional construction และมี fluctuation สูงกว่า

ในส่วนของต้นทุนขายและอัตรากำไรขั้นต้น บริษัทมี Leverage เรื่อง Fixed Cost ค่อนข้างสูง ทำให้เวลาที่ยอดขาย Drop ลง Fixed Cost ไม่ได้ลงเร็วเท่า Margin จึง Drop เร็วกว่า แต่ถ้ากลับมา Margin ก็จะขึ้นเร็วกว่ายอดขาย ซึ่งเป็นธรรมชาติของธุรกิจ

ค่าใช้จ่ายในการขายต่อรายได้การขายและบริการลดลง แต่ถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเนื่องจาก Fixed Cost ลดลงได้ไม่มากนัก

ค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมลดลง แต่ถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ดูเหมือนสูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันกับค่าใช้จ่ายในการขาย

กำไรสุทธิปีที่แล้วติดลบ 3.84 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 11 ปี แต่ Cpanel มองว่าภาพของการพึ่งพาแนวราบสิ้นสุดไปแล้ว มีการ Rebound ชัดเจนของฝั่งคอนโด และงานภาครัฐ

สินทรัพย์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,095 ล้านบาท ซึ่ง Account พวกที่ดินอาคารอุปกรณ์ไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่ Commissioning เครื่องจักรเท่านั้น

ลูกหนี้การค้าลดลงได้เยอะจาก 36 ล้านบาทเหลือ 8.6 ล้านบาท ส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อลูกหนี้การค้ารวมที่ดูเหมือนเพิ่มขึ้นไม่ได้มีอะไร เพราะลูกหนี้มันลดลง

สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นจาก 20-25-27 เป็น 32 ล้านบาท และค่าเผื่อมูลค่าเป็นไปตามอายุสินค้าที่เพิ่มขึ้น

กลยุทธ์ในปีที่แล้วคือการ Stock สินค้าคงเหลือเพื่อรองรับความผันผวนของตลาดและการรับสินค้าจากลูกค้า เพื่อให้ได้ Cost of production ที่ถูกที่สุด

หนี้สินเพิ่มขึ้น และหนี้สินหมุนเวียนอยู่ที่ 47.36% หนี้สินไม่หมุนเวียนอยู่ที่ 52.64% ส่วนของผู้ถือหุ้น Drop ลงเล็กน้อยจากการจ่ายเงินปันผล

Debt to equity ratio อยู่ที่ 1.36 และ net gearing ratio อยู่ที่ 1.03 ROE อยู่ที่ -0.67% จาก Performance ปีที่แล้ว

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

โอกาสทางธุรกิจของ Cpanel มาจากหลายปัจจัย:

  • Global Second Home: สถานการณ์โลกส่งผลให้มีการย้ายฐานการผลิตและที่อยู่อาศัย
  • Global Supply Chain Relocation: การย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ
  • การกลับมาของคอนโดมิเนียม: ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ของ Cpanel เพิ่มขึ้น
  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ: รัฐบาลมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับ Cpanel ในการรับงานโครงการภาครัฐ

Cpanel มีแผนที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้โดยการ:

  • เจาะตลาด niche มากขึ้น: มุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ: ตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
  • ขยายฐานลูกค้า: สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงที่ Cpanel กำลังเผชิญอยู่ ได้แก่:

  • ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก: เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ของ Cpanel
  • การแข่งขันที่รุนแรง: ตลาด Precast มีการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ Cpanel ต้องรักษาความสามารถในการแข่งขัน
  • อัตราดอกเบี้ยที่สูง: อัตราดอกเบี้ยที่สูงอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
  • ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น: ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของ Cpanel

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

Cpanel มีแผนที่จะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้โดยการ:

  • บริหารจัดการต้นทุน: ควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ: สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
  • ขยายตลาด: เจาะตลาดใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง
  • สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม

นอกจากนี้ Cpanel ยังมีแผนที่จะปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

แนวโน้มของธุรกิจ Precast ในอนาคตมีดังนี้:

  • การเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียม: ตลาดคอนโดมิเนียมจะยังคงเติบโตต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มราคาปานกลางและราคาแพง
  • การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ: รัฐบาลจะยังคงลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่อไป ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจ Precast
  • ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
  • การใช้เทคโนโลยีในการผลิต: เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในการผลิต Precast มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

Cpanel มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในตลาด Precast โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 32:58]

  1. **งานรัฐที่เข้ามาช่วงนี้จะรับรู้รายได้ทั้งหมดเลยหรือไม่**

    ผู้บริหารตอบ: งานรัฐที่เข้ามาใหม่ รัฐบาลมีความต้องการที่จะทำให้งบการใช้จ่ายเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลต่อ GDP ประเทศ ดังนั้นรัฐจึงพยายามให้โครงการเสร็จใน 1-2 ปี ซึ่ง Precast สามารถตอบโจทย์นี้ได้ ดังนั้นงานรัฐที่ใช้ Precast ก็เพื่อต้องการให้เสร็จใน 1 ปี

  2. **นอกจากการใช้ Precast ในบ้านและคอนโดแล้ว มีการใช้ในโครงการประเภทอื่นอีกหรือไม่**

    ผู้บริหารตอบ: นอกจากบ้านและคอนโด ซึ่งเป็นอาคารทุกประเภทแล้ว ในปีนี้เริ่มมี Demand ในอาคารที่ไม่ใช่อาคารที่อยู่อาศัย เช่น โรงงาน, Parking, Shopping arcade หรือ Community Mall และงานที่เห็นกันเป็นประจำทั่วไป เนื่องจากคนเริ่มรู้ว่า Precast สามารถใช้กับอะไรก็ได้ โดยเฉพาะโรงงาน Auto ที่ตอบสนองได้ดี ดังนั้น Cpanel จึงได้รับเชิญให้เข้าไปช่วยให้ Know-how กับเจ้าของงานหลายที่ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจะเห็นความหลากหลายของลูกค้ามากขึ้น และ Cpanel กลับเข้าไปทำกลุ่มที่ Niche Market มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Auto ที่ตอบสนองได้ดี และตอบสนองกลุ่มที่ต้องการความ Flexible สูง ต้องการบ้านที่ไม่เหมือนใคร และอยู่ในเขตเล็กๆ เข้าถึงยาก ซึ่งจะเริ่มเป็น Precast ของ Cpanel

  3. **ตัวเลขที่น่าสนใจจาก Thai Com นั้น มีข้อมูลส่วนใดที่น่าสนใจบ้าง**

    ผู้บริหารตอบ: ส่วนที่รัฐจะเริ่มสร้างเยอะคืออาคารที่อยู่อาศัยของภาครัฐเอง เนื่องจากอาคารของภาครัฐเริ่มหมดอายุและมีโครงสร้างที่จำกัดอายุการใช้งาน (ประมาณ 50 ปี) ดังนั้นอาคารที่เกิน 50 ปีขึ้นไปจะต้อง Concern เรื่องความปลอดภัยและนำมาพิจารณา relocation เพื่อการใช้ที่ดินของรัฐให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น การ relocation บางที่ หรือการใช้ที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาเพื่อให้ภาคประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น เช่น โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ

สรุป: Cpanel กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตที่สำคัญรออยู่ การปรับตัวเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Cpanel สามารถก้าวข้ามความท้าทายและคว้าโอกาสในการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

โพสต์ล่าสุด