บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MINT สดใส! หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ" คาดกำไรโตต่อเนื่อง หนุนราคาเป้าหมาย 36 บาท
P/E 13.17 YIELD 2.67 ราคา 22.50 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: มุมมองเชิงบวกต่อ MINT จากหยวนต้า
บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น MINT (บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)) พร้อมราคาเป้าหมาย 36.00 บาท มองเห็นโอกาสการเติบโตของกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์เดิม จากการขยายธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงกลยุทธ์การลดหนี้สินที่ส่งผลดีต่ออัตราการทำกำไรของบริษัท
รายละเอียดการวิเคราะห์: การเติบโตและกลยุทธ์ของ MINT
หยวนต้าวิเคราะห์ว่า MINT มีแนวโน้มผลประกอบการ 1Q25 ที่รายได้เติบโตดีและดอกเบี้ยจ่ายลดลง จากการคืนหนี้ในช่วงปลาย 4Q24 ทำให้มีโอกาสกลับมารายงานกำไรปกติหรือขาดทุนเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ 1Q24 ที่ขาดทุน 352 ล้านบาท นอกจากนี้ Guidance การเติบโตของกำไรยังสะท้อนว่าประมาณการของหยวนต้าที่คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 10-13% YoY มีโอกาสเกิด Upside ได้ในระยะถัดไป บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 6-8% YoY ผ่านการขยายจำนวนโรงแรม 280+ แห่ง และร้านอาหาร 1,500+ สาขา ส่วนกำไรคาดเติบโตในระดับ 15-20% YoY
กลยุทธ์หลักของ MINT คือ “Asset Light” โดยกว่า 50% ของการขยายธุรกิจจะเน้นขยายพอร์ตโรงแรมภายใต้สัญญารับจ้างบริหารและขายแฟรนไชส์ร้านอาหารเป็นหลัก เตรียมขยายการลงทุนไปในตลาดที่มีการเติบโตสูงเช่นตลาดเอเชีย และ Middle East อีกทั้งการทำกำไรจะดีขึ้นผลบวกจากการลดหนี้ตลอดปี 2024 และทิศทางดอกเบี้ยที่เข้าสู่ขาลง
ข้อสังเกต: ปัจจัยหนุนและปัจจัยเสี่ยง
หยวนต้ามองว่าการเพิกถอนหลักทรัพย์ NHHOTEL (MINT ถือหุ้น 96%) จะช่วยให้การบริหารจัดการสินทรัพย์และเงินทุนคล่องตัวมากขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2Q25 การถือหุ้นเพิ่มอีก 4% จะเกิด Upside ราว 300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ต่อประมาณการปี 2025 อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาดการณ์, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก, ภาวะสงครามในยุโรป และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป
สรุป: โอกาสลงทุนและคำแนะนำ
หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น MINT โดยให้ราคาเหมาะสม 36.00 บาทต่อหุ้น โดยประเมินจาก EV/EBITDA ที่ 7x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตก่อนเกิดโควิด-19 แนวโน้ม 1Q25 คาดว่าจะกลับมาทำกำไรครั้งแรกต่อเนื่องไป 2Q24 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของกลุ่มโรงแรมยุโรป แรงกดดันด้านต้นทุนจำกัด และกลยุทธ์การลดภาระหนี้สินในช่วงปลายปี 2024 คาดว่าจะช่วยให้อัตราการทำกำไรของบริษัทดีขึ้น YoY ตลอดปี 2025