บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
WHAUP กำไร Q4/67 ต่ำกว่าคาด! กูรูชี้ Gheco-One ฉุดผลงาน แต่ยังแนะนำ "ซื้อ"
P/E 11.62 YIELD 7.43 ราคา 3.40 (-0.58%)
ไฮไลท์สำคัญ: กำไร WHAUP ไตรมาส 4/2567 พลาดเป้า
KSS (Krungsri Securities) รายงานว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของ WHAUP ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจาก Gheco-One รับรู้ค่าเชื้อเพลิงส่วนต่างลดลง ส่งผลให้กำไรธุรกิจหลักลดลง 28% YoY และ 51% QoQ เหลือ 156 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม KSS ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมาย 5.9 บาท มองว่าการดำเนินงานจะดีขึ้นในปีนี้
รายละเอียดผลประกอบการ: โรงไฟฟ้าฉุดกำไร
กำไรธุรกิจหลักในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 156 ล้านบาท ลดลงเนื่องจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้กำไรธุรกิจหลักทั้งปี 2567 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ลดลง 30% YoY บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย 0.1925 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.6% (XD วันที่ 28 เมษายน) ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าลดลง 64% YoY และ 28% QoQ เป็น 172 ล้านบาท เนื่องจาก IPP ขาดทุน 31 ล้านบาท เทียบกับกำไร 285 ล้านบาทในไตรมาส 4/2566 และขาดทุน 14 ล้านบาทในไตรมาส 3/2567 เนื่องจากการรับรู้ค่าเชื้อเพลิงส่วนต่างลดลงที่ Gheco-One
ขณะที่ SPP เพิ่มขึ้น 5% YoY เป็น 198 ล้านบาท แต่ลดลง 12% QoQ เนื่องจากรายได้ค่าพลังงานลดลง ประกอบกับค่าความพร้อมจ่ายลดลง รายได้จากโครงการโซล่าร์หลังคาเพิ่มขึ้น แต่กำลังการผลิตยังคงมีขนาดเล็ก โดยรายได้เพิ่มขึ้น 46% YoY และ 18% QoQ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของโซล่าร์หลังคาเพิ่มขึ้นเป็น 41.7%
ธุรกิจน้ำ: กำไรลดลงเล็กน้อย
รายได้และส่วนแบ่งกำไรจาก Duong River ลดลง 1% YoY และ 15% QoQ เป็น 574 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมการขอใช้น้ำเกินกว่าที่จัดสรรลดลง
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย: ยังคง "ซื้อ" มองอนาคตสดใส
KSS ยังคงประมาณการกำไรธุรกิจหลักเติบโต 18% ในปีนี้ สนับสนุนจากการดำเนินงานของ Gheco-One ที่ดีขึ้น และยอดขายน้ำที่สูงขึ้น รวมถึงรายได้โซล่าร์หลังคาที่เพิ่มขึ้น บริษัทตั้งเป้ายอดขายน้ำเติบโต 4% เป็น 173 ล้าน ลบ.ม. (ประเทศไทย 132 ล้าน ลบ.ม. และเวียดนาม 41 ล้าน ลบ.ม.) และเซ็นสัญญา PPA ไฟฟ้า 220MW (ไทย 175MW และเวียดนาม 45MW)
KSS ประเมินมูลค่าหุ้น WHAUP โดยใช้วิธี DCF (Discounted Cash Flow) โดยมี WACC (Weighted Average Cost of Capital) ที่ 7.5% และ Terminal Growth Rate ที่ 2%
KSS เชื่อว่าเงินปันผลที่น่าสนใจ (อัตราผลตอบแทน 5.6%) จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในระยะสั้น จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมาย 5.9 บาท