บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
CENTEL กำไรโตต่อเนื่อง! KSS ชี้เป้าใหม่ 43 บาท คาดธุรกิจโรงแรม-อาหารหนุน
P/E 24.83 YIELD 1.90 ราคา 31.00 (0.00%)
มุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL
Krungsri Securities (KSS) มีมุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL หลังการประชุมนักวิเคราะห์ และคาดว่ากำไรจะยังคงเติบโตได้ดีในปีนี้ โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY25-27F และคาดการณ์กำไรหลักที่ 2 พันล้านบาทสำหรับปี FY25F (+17% yoy) และคาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี (CAGR 2 ปี) ในช่วงปี FY25-27F จากการปรับเพิ่มสมมติฐาน EBITDA margin ขึ้น (ตามผลประกอบการปี 2024 ที่แข็งแกร่ง) และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
คาดการณ์กำไรและการเติบโต
KSS คาดการณ์กำไรหลักของ CENTEL จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาทในปี FY25F แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่คาดกำไรใกล้เคียงกับปี 2567 ที่ 2.1 พันล้านบาท ปัจจัยหลักประกอบด้วย:
(1) ธุรกิจโรงแรม - CENTEL ตั้งเป้ารายได้เติบโต 24% yoy เป็น 1.3 หมื่นล้านบาท จากการเปิดโรงแรมใหม่ในพัทยาและภูเก็ตรวมถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในญี่ปุ่น ซึ่งช่วยผลักดัน RevPar เพิ่มขึ้น 10% (+11% yoy ในมกราคม)
(2) ธุรกิจอาหาร - ตั้งเป้ารายได้ 1.38 หมื่นล้านบาท ด้วย SSSG 3-4%
(3) CENTEL เริ่มเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุนใน 4Q24 และจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JV เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก The Food Selection Group., Ltd ซึ่งบันทึกกำไร 127 ล้านบาทในปี 2567 (เทียบกับเพียง 18 ล้านบาทในปี 2566) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการขยายเครือข่ายร้านอาหาร
ปรับประมาณการและคำแนะนำ
KSS ปรับประมาณการ FY25-27F ขึ้น โดยคาดกำไรหลักจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาทใน FY25F (+17% yoy) การปรับเพิ่มประมาณการกำไรมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจาก JV จากการที่ขยายเครือข่ายโดยเฉพาะร้านอาหารใน JV และ EBITDA margin ที่สูงขึ้นเป็น 27.7% (จาก 26.2% เทียบกับ 36.6% ในปี 2023) เนื่องจากรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้น, ประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น, และอัตรากำไรที่สูงขึ้นจากธุรกิจอาหารใน JV นอกจากนี้ KSS ยังได้รวมค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเนื่องจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นสำหรับโครงการในมัลดีฟส์
สรุปและราคาเป้าหมาย
CENTEL มีการเติบโตผลประกอบการที่โดดเด่น และมองว่าจะอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในกลุ่มโรงแรม (KSS คาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทในกลุ่มเดียวกันจะเติบโตน้อยกว่า 10%) นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ลดลงในก่อนหน้านี้ทำให้ CENTEL ซื้อขายที่ 23 เท่าของ PER ปี 2025F ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 38 เท่า ดังนั้น KSS จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายใหม่มาที่ 43 บาท (จากเดิม 40 บาท) โดยประเมินด้วยวิธี DCF