BCH กำไร Q4/67 ดิ่ง! INVX ชี้ต่ำกว่าคาด แม้ทั้งปี 67 ยัง Outperform

P/E 19.24 YIELD 4.02 ราคา 9.95 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิ BCH ใน 4Q67

BCH รายงานกำไรสุทธิ 4Q67 ที่ 233 ล้านบาท ดีกว่าที่ INVX คาดการณ์ไว้ 9% และดีกว่าตลาดคาด 21% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากำไรปกติที่ 354 ล้านบาท จะต่ำกว่าที่ INVX คาด 7% จาก EBITDA margin ที่ลดลง INVX ยังคงแนะนำ "OUTPERFORM" สำหรับ BCH ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 20 บาท อ้างอิงวิธี DCF

รายละเอียดผลประกอบการและรายการพิเศษ

กำไรสุทธิ 4Q67 ลดลง 45% YoY และ 49% QoQ สำหรับปี 2567 BCH มีกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท (ลดลง 9% YoY) และกำไรปกติ 1.5 พันล้านบาท (ลดลง 2% YoY) บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.28 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.7% โดยมี XD วันที่ 2 พ.ค. และจ่ายวันที่ 23 พ.ค.

รายการพิเศษใน 4Q67 ประกอบด้วย:

  • ผลกระทบจากการปรับลดอัตราค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW>2) โดยสำนักงานประกันสังคม จำนวน 131 ล้านบาท
  • การ write-off รายได้ที่เกี่ยวข้องกับบริการ COVID-19 จำนวน 52 ล้านบาท
  • ผลกำไรจากรายการที่เป็นตัวเงินจำนวน 62 ล้านบาท จากการปรับปรุงการบันทึกบัญชีตามมาตรฐานภาวะเงินเฟ้อรุนแรงของโรงพยาบาลในสปป.ลาว
รายได้จากกิจการโรงพยาบาลลดลง 9% YoY และ 15% QoQ โดยรายได้จากบริการ IPD ลดลง 15% YoY จากผู้ป่วยคูเวตที่ชะลอการเข้ารักษา และรายได้จากบริการ SC ลดลง 16% YoY จากการปรับลดอัตราค่ารักษาพยาบาล

ประมาณการและปัจจัยเสี่ยง

INVX ปรับประมาณการกำไรปกติของ BCH ลดลง 1% ในปี 2568 และ 2% ในปี 2569 คาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 15% YoY มาอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ในปี 2568 โดยมีสมมติฐานว่าผู้ป่วยชาวคูเวตจะกลับมาช้า INVX มองว่าคุณภาพของกำไรจะปรับตัวดีขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับการ write-off รายได้ SC ที่ลดลง

ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อยู่ที่ 20 บาท/หุ้น อ้างอิงวิธี DCF โดยอิงกับ WACC ที่ 7.1% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%

ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การปรับอัตราการเบิกจ่ายสำหรับโครงการประกันสังคม, จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการชะลอตัวลง, และภาระต้นทุนที่โรงพยาบาลใหม่ นอกจากนี้ INVX มองว่าปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่ง BCH ได้นำเอาระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

สรุปและคำแนะนำ

INVX ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ BCH เนื่องจากคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งที่ 15% ในปี 2568 และยังคงแนะนำ "OUTPERFORM" ด้วยราคาเป้าหมาย 20 บาท อ้างอิงวิธี DCF โดยมี WACC ที่ 7.1% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%

โพสต์ล่าสุด