บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MINT: FSSIA คาดกำไรหลักปี 2568 โต 13% รับอานิสงส์ "The White Lotus" หนุนท่องเที่ยวไทย
P/E 13.17 YIELD 2.67 ราคา 22.50 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: MINT ตั้งเป้า Core Profit โต 15-20% CAGR ในช่วงปี 2567-2570
FSSIA ประเมินว่า MINT (Minor International) จะมีกำไรหลัก (Core Profit) เติบโต 13% ในปี 2568 แตะ 9.5 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวจากซีรีส์ "The White Lotus" ซึ่งถ่ายทำในโรงแรมของ MINT ถึง 4 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าการเติบโตของกำไรหลัก (Core Profit) ที่ 15-20% CAGR ในช่วงปี 2567-2570 พร้อมกับการขยายโรงแรมและร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดการวิเคราะห์: แผนธุรกิจ 3 ปีที่น่าสนใจ
FSSIA มีมุมมองเชิงบวกต่อแผนธุรกิจ 3 ปีของ MINT ซึ่งคาดการณ์รายได้เติบโต 6-8% CAGR และกำไรหลักเติบโต 15-20% CAGR ในช่วงปี 2567-2570 บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนโรงแรมจาก 562 แห่ง และร้านอาหาร 2,699 แห่ง ในปี 2567 เป็น 850 แห่ง และ 4,000 แห่ง ในปี 2570 โดยกว่า 50% ของการขยายจะเป็นแบบ Asset-light ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโรงแรมที่บริหารจัดการเป็น 42% และสัดส่วน EBITDA เป็น 50% ภายในปี 2570 นอกจากนี้ MINT ยังคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเติบโต 5% CAGR ในยุโรป และ 8% CAGR ในประเทศไทย ในช่วงปี 2567-2575 ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
ข้อสังเกต: "The White Lotus Effect" หนุน ADR โรงแรมโต 40%
FSSIA มองว่า "The White Lotus Effect" อาจมีผลกระทบมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดย ADR (Average Daily Rate) ของโรงแรม 4 แห่งของ MINT ที่ใช้ในการถ่ายทำซีรีส์เพิ่มขึ้นถึง 40% และคาดว่าจะยังคงเติบโตต่อไป นอกจากนี้ FSSIA คาดการณ์ว่า RevPAR (Revenue Per Available Room) ของโรงแรมในประเทศไทยจะเติบโต 7-9% ในปี 2568 ในขณะที่โรงแรมในยุโรปจะเติบโต 4-5%
สรุปและคำแนะนำ: คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 45 บาท
FSSIA ประเมินว่ากำไรหลักของ MINT จะเติบโต 13% จาก 8.4 พันล้านบาท เป็น 9.5 พันล้านบาท ในปี 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักคือ 1) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง 700-800 ล้านบาท จาก IBD ที่ลดลงเหลือ 87 พันล้านบาท และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงเล็กน้อย และ 2) การเติบโตตามธรรมชาติ โดยเฉพาะจากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย FSSIA คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ MINT ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ที่ 45 บาท/หุ้น โดยมองว่า MINT มี Valuation ที่ถูกเพียง 17x 2025E P/E ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 23x นอกจากนี้ FSSIA มองว่าปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นคือผลตอบรับเชิงบวกจาก The White Lotus และศักยภาพในการทำกำไรในไตรมาส 1 ปี 2568 ซึ่งเป็นช่วง Low Season สำหรับโรงแรมในยุโรป ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2562
ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา: ความผันผวนของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว, การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร, ความเสี่ยงด้านการดำเนินงานและต้นทุน