บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
หยวนต้า ชี้ TEGH กำไร Q4/67 พุ่งสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส! คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5 บาท
P/E 5.23 YIELD 7.09 ราคา 2.96 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: แนวโน้ม TEGH สดใส ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
บล.หยวนต้า คาดการณ์กำไรปกติของ TEGH ในไตรมาส 4/2567 จะทำสถิติสูงสุดของปี หนุนโดยธุรกิจยางพาราที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปริมาณขายยางเพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้จากการขาย Bio gas ให้กับ GGC ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 1/2568 ยังดีต่อเนื่องตามราคายางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้น
รายละเอียดการวิเคราะห์: กำไร Q4/67 โตกระโดด
หยวนต้าคาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 4/2567 ของ TEGH ที่ 248 ล้านบาท (+13.1% QoQ, +1,043.7% YoY) เป็นผลมาจากธุรกิจยางพาราที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ปริมาณขายยาง (ยางแท่ง+น้ำยาง) คาดว่าจะเติบโตเป็น 68,000 ตัน จาก 59,500 ตันในไตรมาส 3/2567 จากความต้องการที่แข็งแกร่งและการรับรู้กำลังการผลิตใหม่ (+25%) นอกจากนี้ ปริมาณขายยาง EUDR คาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 25,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 35-40% ของปริมาณขายยางแท่งทั้งหมด หนุนราคาขายเฉลี่ยและ GPM ส่วนธุรกิจ CPO คาดปริมาณขายยังลดลง QoQ แต่ชดเชยได้บางส่วนจากราคาขายเฉลี่ยน้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้น
ข้อสังเกต: ปรับประมาณการกำไรปี 2568 ขึ้น
หยวนต้ายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมยางพาราในปี 2568 และเห็นสัญญาณบวกจากราคายาง SICOM ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ราว 200 Cent/kg ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาขายเฉลี่ยธุรกิจยางพาราให้สูงขึ้นถึงไตรมาส 2/2568 เป็นอย่างน้อย ขณะที่ธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบคาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป และในปี 2568 TEGH จะรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นจากการขาย Bio gas ให้ GGC ได้เต็มปี แม้คาดจะหนุนรายได้ไม่มาก แต่เป็นธุรกิจที่มี GPM และ NPM สูงกว่าค่าเฉลี่ยมาก จะช่วยหนุนกำไรสุทธิของบริษัท
ทั้งนี้ หยวนต้าได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 ขึ้น 25% เป็น 723 ล้านบาท (+38.3% YoY) สะท้อนแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยยางพาราที่สูงกว่าคาด และปรับสมมติฐานปริมาณขายธุรกิจยางที่ 257,000 ตัน (+12% YoY) ซึ่งยัง Conservative กว่าเป้าของบริษัทที่ 20% YoY ทำให้ประมาณการของหยวนต้ายังมี Upside
สรุปและคำแนะนำ: คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 5 บาท
แม้จะปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 ขึ้น แต่หยวนต้ายังคงราคาเหมาะสมตามเดิมที่ 5.00 บาท จากการปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงเป็น 7.2 เท่า เพื่อเพิ่มความระมัดระวังและสะท้อนภาวะตลาดในปัจจุบัน ซึ่งยังมี Upside gain 63.4% จากราคาปัจจุบัน มองว่าราคาหุ้นอยู่ในโซนถูกมาก และคาดเงินปันผลจ่ายงวดปี 2567 ที่ 0.20 บาท คิดเป็น Div. Yield 6.5% ช่วยจำกัด Downside risk ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"