บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

SUPER โชว์กำไรปี 67 ทะลุ 1.3 พันล้าน! แม้รายได้ลด แต่ฐานะการเงินแกร่งขึ้น
P/E 2.81 YIELD 0.00 ราคา 0.14 (7.69%)
ไฮไลท์สำคัญ: SUPER กำไร 1.3 พันล้านบาท แม้รายได้ลดลงจากการขายหุ้น TTS แต่ยังคงรักษาผลกำไรจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
รายได้และกำไร: SUPER ยังคงทำกำไรได้ดี แม้รายได้ลดลง
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER รายงานผลประกอบการปี 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 9,814.71 ล้านบาท ลดลง 4.80% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ทำได้ 9,343.42 ล้านบาท แต่ยังคงมีกำไรสำหรับปีอยู่ที่ 1,311.05 ล้านบาท สาเหตุหลักของรายได้ที่ลดลงมาจากการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัท ทานตะวัน โซล่าร์ จำกัด (TTS) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงสามารถสร้างกระแสเงินสดและรักษาระดับกำไรไว้ได้จากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ การมี EBITDA Margin ที่ 103.08% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำกำไรของธุรกิจพลังงานทดแทน
SUPER ได้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซุปเปอร์กริน เอนเนอร์ยี จำกัด (SUPERG) และ บริษัท ซุปเปอร์ เคจีอี จำกัด (SUPERKGE) เพื่อขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนกับภาคเอกชนในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ความแข็งแกร่งทางการเงิน: หนี้สินลดลง ฐานะการเงินมั่นคงขึ้น
บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้นโดยการจำหน่ายหุ้น TTS และนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่งผลให้ หนี้สินรวมลดลง 14.08% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลงจาก 2.72 เท่าในปี 2566 เหลือ 2.29 เท่าในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินที่เพิ่มขึ้น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น 28%
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,045.89 ล้านบาท
ความเสี่ยงและโอกาส: บริหารความเสี่ยง คว้าโอกาสการเติบโต
SUPER มุ่งเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย และแสวงหาโอกาสในการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและการตอบสนองต่อรูปแบบการใช้พลังงานในอนาคต รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
สรุป: SUPER ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต แม้เผชิญความท้าทาย
แม้ว่ารายได้จะลดลงจากการขาย TTS แต่ SUPER ยังคงสามารถทำกำไรและปรับปรุงฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้นได้ การบริหารความเสี่ยงและแสวงหาโอกาสในการเติบโตในอนาคต รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว