บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
PRAKIT พลิกขาดทุน! รายได้รวมลดฮวบ แต่ธุรกิจหลักโตสวนกระแส
P/E -100.00 YIELD 6.36 ราคา 11.00 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: PRAKIT รายได้รวมปี 67 ลดลง 45.07% แต่ธุรกิจบริการโต 39.03% หากไม่รวมรายการพิเศษ ขาดทุนสุทธิ 81.86 ล้านบาท เหตุลงทุนบริษัทร่วมฉุดผลงาน
รายได้ลดฮวบ กำไร(ที่หายไป)จากการขายอสังหาฯ
บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (PRAKIT) เผยผลประกอบการปี 2567 รายได้รวม 404.80 ล้านบาท ลดลง 45.07% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่ทำได้ 736.99 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการไม่มีกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเหมือนปี 2566 ที่มีกำไรพิเศษถึง 445.83 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะการดำเนินธุรกิจหลัก พบว่ารายได้รวมปี 2567 เพิ่มขึ้นถึง 39.03% แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจหลักของบริษัทฯ
ถึงแม้รายได้จะลดลง แต่บริษัทฯ ยังคงขาดทุนสุทธิ 81.86 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนถึง 315.26 ล้านบาท
ธุรกิจบริการดาวเด่น คว้ากำไรเพิ่ม
แม้ภาพรวมรายได้จะลดลง แต่ PRAKIT ยังมีข่าวดีจากส่วนของธุรกิจบริการ โดยกำไรจากการให้บริการเพิ่มขึ้น 23.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75.17% จากปีก่อนหน้า ทำให้มีกำไรจากส่วนนี้รวม 55.35 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตของรายได้ค่านายหน้าจากการใช้สื่อโฆษณาออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ รายได้อื่น ๆ ก็เพิ่มขึ้น 14.48 ล้านบาท จากค่าเช่าอาคารมหาชลที่สูงขึ้น และการรับรู้รายได้จากการลงทุนในตราสารหนี้
วิกฤต! ขาดทุนบานปลายจากการลงทุน
สิ่งที่ฉุดรั้งผลประกอบการของ PRAKIT อย่างหนักคือ ผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วม (บจก.การแพทย์ สุขุมวิท 62) ซึ่งสูงถึง 140.17 ล้านบาท ถือเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิโดยรวม
ขณะที่ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 4.07% เป็น 172.29 ล้านบาท โดยต้นทุนในการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของรายได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียน
สรุป: ธุรกิจหลักโต แต่ลงทุนพลาดฉุดกำไร
ผลประกอบการปี 2567 ของ PRAKIT สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แม้รายได้รวมจะลดลงเนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษจากการขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ธุรกิจหลักอย่างบริการกลับเติบโตอย่างโดดเด่น อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วมได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกำไรสุทธิ ทำให้บริษัทฯ ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เพิ่มขึ้นเป็น 0.51 เท่า แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาหนี้สินในการดำเนินงานที่มากขึ้น
นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลเหล่านี้อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการลงทุนในบริษัทร่วม ก่อนตัดสินใจลงทุนใน PRAKIT