บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

JSP โชว์ผลงานปี 67: รายได้พุ่ง 43% แต่เจอพิษด้อยค่าสินทรัพย์ ฉุดกำไรวูบ

ปี 2567 JSP เผชิญความท้าทาย แต่ยังสร้างการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการได้น่าสนใจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ Own Brand และ Hemodialysis อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากปัจจัยลบฉุดให้บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ

รายได้ทะยาน กำไรทรุด: ผลกระทบจากการด้อยค่า

รายได้รวมปี 67: 824.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.2% จากปี 66 ที่ 575.6 ล้านบาท แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์ Own Brand และ Hemodialysis
ไตรมาส 4/67: รายได้รวม 240.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/67 และ เพิ่มขึ้น 51.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66
กำไรสุทธิปี 67: ขาดทุน 33.17 ล้านบาท (ปี 66 กำไรสุทธิ 27.38 ล้านบาท)
ไตรมาส 4/67: ขาดทุน 75.13 ล้านบาท (ไตรมาส 4/66 กำไรสุทธิ 3.42 ล้านบาท)
ปัจจัยขับเคลื่อนรายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์ Own Brand ที่เติบโตจากการโฆษณาและขยายช่องทางจัดจำหน่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์ Hemodialysis จากการขยายกำลังการผลิต

อัตรากำไรขั้นต้นสดใส แต่ยังต้องระวัง

อัตรากำไรขั้นต้นปี 67: อยู่ที่ 37.0% เพิ่มขึ้น จาก 24.9% ในปี 66 และไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 41.6% เพิ่มขึ้น จาก 28.5% ในไตรมาส 4/66 เป็นผลจากการปรับราคาสินค้าและการใช้กำลังการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิปี 67: ติดลบ (-4.2%) ลดลงจาก 4.8% ในปี 66 และในไตรมาส 4/67 อยู่ที่ -30.5% ลดลงจาก 2.0% ในไตรมาส 4/66 สาเหตุหลักมาจากการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์ทางการเงินจำนวน 116 ล้านบาท

สินทรัพย์เพิ่ม หนี้สินขยับ: โอกาสและความเสี่ยงที่ต้องจับตา

สินทรัพย์หมุนเวียนรวม: เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน: ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากการซื้อเครื่องจักรและคลังสินค้าสำเร็จรูป หนี้สินหมุนเวียนรวม: เพิ่มขึ้น 17.3% จากปีก่อนหน้า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E): เพิ่มขึ้นเป็น 0.50 เท่า
บริษัทฯ ต้องเผชิญความเสี่ยงจากการแข่งขัน, ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ก็มีโอกาสจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, ขยายตลาดต่างประเทศ, ร่วมมือกับพันธมิตร, และการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและน้ำยาฟอกไต

สรุป: JSP ต้องเน้นบริหารต้นทุน ฝ่าวิกฤตด้อยค่า

JSP ประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้ แต่ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เป็นปัจจัยลบสำคัญ แม้อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น สภาพคล่องดีขึ้น แต่บริษัทยังต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน, ค่าใช้จ่าย, และหนี้สิน เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตอย่างยั่งยืน กลยุทธ์การตลาดและการตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาดจึงเป็นสิ่งจำเป็น