บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

KCAR กำไรปี 67 ร่วง 50% พิษตลาดรถมือสอง!
P/E 9.89 YIELD 5.00 ราคา 3.80 (0.53%)
ไฮไลท์สำคัญ:
KCAR กำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 50.1% เหลือ 96.1 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้ขายรถมือสองที่ลดลง แม้ว่ารายได้ค่าเช่าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
ผลกระทบเศรษฐกิจ:
ปี 2567 ตลาดรถยนต์มือสองเผชิญความท้าทาย จากรถยึดที่เพิ่มขึ้น, สถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อ, และการแข่งขันจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ลดราคา
กำไรที่ลดลง:
กำไรสุทธิปี 2567 ลดลง 96.6 ล้านบาท (50.1%) เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักดังนี้:
- รายได้ค่าเช่า: เพิ่มขึ้น 4.1% จากการขยายสัญญาเช่า
- รายได้จากการขายรถ: ลดลง 16.5% จากยอดขายและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง
- ต้นทุนทางการเงิน: เพิ่มขึ้น 24.5% จากการจัดหาเงินทุนและต้นทุนเฉลี่ยที่สูงขึ้น
ความเสี่ยงและโอกาส:
ความเสี่ยง: ตลาดรถมือสองผันผวน, แข่งขันสูง, ต้นทุนทางการเงินที่อาจเพิ่มขึ้น
โอกาส: การเติบโตของธุรกิจเช่ารถ, บริหารจัดการต้นทุน, และการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม
สรุป:
KCAR เผชิญความท้าทายจากตลาดรถมือสองที่ไม่เอื้ออำนวย แม้รายได้ค่าเช่าจะเติบโต แต่รายได้ขายรถที่ลดลงและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ฉุดกำไรสุทธิลดลงอย่างมาก บริษัทต้องบริหารความเสี่ยง, ปรับกลยุทธ์, ควบคุมต้นทุน, และบริหารสินทรัพย์เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรในอนาคต
ข้อสังเกต:
การวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากข้อมูลที่มี หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NIM, NPL และ Coverage Ratio จะทำให้การวิเคราะห์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น