บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

โรงกลั่นฟื้นตัวต่อเนื่อง, ปันผลสูง หนุนลงทุนระยะยาว

ไฮไลท์สำคัญ: กำไร Q4/67 สูงกว่าคาด, ปันผลจูงใจ

KSS (Krungsri Securities) วิเคราะห์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP รายงานกำไรสุทธิ Q4/67 ที่ 2,767 ล้านบาท สูงกว่าที่ KSS และตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยหนุนจาก stock loss ที่ลดลง และค่าการกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นตามฤดูกาล พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล 0.7 บาท/หุ้น คิดเป็น yield ราว 3% ขึ้น XD 27 ก.พ. 2568

ผลประกอบการ: ฟื้นตัวตามค่าการกลั่น

กำไรปกติ Q4/67 อยู่ที่ 3,283 ล้านบาท (+86% y-y) สูงกว่าที่ KSS คาดการณ์ไว้ 21% เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิต (u-rate) ที่สูงกว่าคาด และส่วนแบ่งขาดทุนฯ ของ CAP ที่น้อยกว่าคาด แม้ค่าการกลั่นจะลดลง 29% y-y มาอยู่ที่ 5.1 $/bbl แต่มี net stock gain 325 ล้านบาทมาชดเชย นอกจากนี้ ค่าการกลั่นยังฟื้นตัว 38% q-q จาก demand heating oil ในช่วงฤดูหนาวและการท่องเที่ยวฟื้นตัว

แนวโน้มปี 2568: Supply ใหม่น้อย, ค่าการกลั่นฟื้น

KSS คาดการณ์ว่าในปี 2568 กำลังการผลิตใหม่ของโรงกลั่นทั่วโลกจะอยู่ที่ 0.6 mbd ซึ่งน้อยกว่า demand growth ที่ 0.9 mbd ทำให้ supply ตึงตัวขึ้น หนุนค่าการกลั่น TOP ฟื้นตัว y-y ประกอบกับไม่มี stock loss มากเท่าปี 2567 รวมถึง SBM กลับมาเปิดใช้ใน 1H25F ช่วยลดค่า ship-to-ship KSS คาดกำไรปกติปี 2568 จะอยู่ที่ 12,677 ล้านบาท (+45% y-y)

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย: คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ 33 บาท

KSS คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 33.0 บาท/หุ้น โดยมองว่า TOP เป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนระยะยาว แม้จะมี overhang ของโครงการ CFP ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติงบลงทุนส่วนเพิ่มจากผู้ถือหุ้น (ซึ่ง KSS มองว่ามีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติ) นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรยังเติบโตต่อเนื่องใน 2568 (stock loss ลดลงและเปิดใช้ SBM) และ 2569 (การปิดซ่อมลดลง) รวมถึง dividend yield ที่อยู่ในระดับสูง

วิธีคิดราคาเป้าหมาย: DCF (Discounted Cash Flow) โดยใช้ WACC (Weighted Average Cost of Capital) ที่ 8%