บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
STA กำไรปี 67 พุ่ง 1,670 ล้านบาท! ราคายางหนุนเต็มสูบ
P/E -100.00 YIELD 8.20 ราคา 12.20 (0.00%)
ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี โชว์ผลงานปี 67 สุดปัง กำไรสุทธิทะยานขึ้นอย่างน่าประทับใจ จากราคายางพาราขาขึ้นต่อเนื่อง
ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิพลิกฟื้น
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) ประกาศผลประกอบการปี 2567 สุดสวย กำไรสุทธิ 1,670.4 ล้านบาท พลิกจากปีก่อนที่ขาดทุนอย่างชัดเจน ปัจจัยหลักมาจาก ราคายางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 26.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ การขายยาง Compound (ยางผสม) ที่มีมูลค่าสูงกว่ายางปกติ ก็เป็นอีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด
รายได้ทะยาน: ยางธรรมชาติ-ถุงมือยางโตคู่
รายได้รวมปี 2567 ของ STA อยู่ที่ 114,373.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) โดยมาจากการเติบโตของทั้งธุรกิจยางธรรมชาติและถุงมือยาง ในส่วนของไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 33,256.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากราคาขายและปริมาณขายยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
ปริมาณขายยางธรรมชาติในปี 2567 อยู่ที่ 1.4 ล้านตัน และปริมาณขายถุงมือยางทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 38,549 ล้านชิ้น แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการแข่งขันของบริษัทฯ ในตลาดโลก
จับตาปัจจัยเสี่ยง: EUDR-ภัยแล้ง-คู่แข่ง
แม้ผลประกอบการจะเติบโตอย่างโดดเด่น แต่ STA ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้ง ความไม่แน่นอนของราคายางพารา ความผันผวนของสภาพอากาศ และการแข่งขันด้านราคาในอุตสาหกรรมถุงมือยาง นอกจากนี้ สถานการณ์การบังคับใช้กฎหมาย EUDR (European Union Deforestation Regulation) และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปลูกยางไปยังพืชอื่น ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง
อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในไอวอรี่โคสต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางพาราที่มีศักยภาพในการเติบโต รวมถึงโอกาสในการขยายตลาดส่งออกและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ก็เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
สรุป: ฟื้นตัวแกร่ง-ต้องบริหารความเสี่ยง
โดยสรุป STA ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 จากราคายางพาราที่สูงขึ้นและการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจาก การแข่งขันในตลาดถุงมือยาง และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ EUDR บริษัทฯ ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการแสวงหาโอกาสในการเติบโตในตลาดใหม่และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรและความยั่งยืนในระยะยาว