TIDLOR กำไร Q4/67 โต 16% หนุนโดยคุมต้นทุนเครดิตอยู่หมัด! FSSIA ชี้เป้า 20.50 บาท

P/E 10.36 YIELD 0.00 ราคา 18.60 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: TIDLOR รายงานกำไรสุทธิ Q4/67 ตามคาด

TIDLOR ประกาศผลประกอบการ Q4/67 มีกำไรสุทธิ 1.04 พันล้านบาท เติบโต 16% YoY และ 5% QoQ เป็นไปตามที่ FSSIA และตลาดคาดการณ์ ปัจจัยหนุนหลักมาจากต้นทุนเครดิตที่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.72% เนื่องจากการตัดหนี้เสีย (NPL write-offs) ที่ต่ำในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม กำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) อยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY และ 11% QoQ ต่ำกว่าที่ FSSIA คาดไว้ 8% จากการเติบโตของสินเชื่อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ NIM ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูง

รายละเอียดผลประกอบการและปัจจัยขับเคลื่อน

  • (-) การเติบโตของสินเชื่อ: สินเชื่อรวมของ TIDLOR อยู่ที่ 103.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% YoY และ 1.2% QoQ ต่ำกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 9% YoY โดยผลิตภัณฑ์หลักคือสินเชื่อทะเบียนรถยนต์และสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์
  • (-) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM): NIM อยู่ที่ 15.67% ใน Q4/67 เพิ่มขึ้น 6bp YoY แต่ลดลง 28bp QoQ การลดลง QoQ เกิดจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นที่ 3.66% (+21bp QoQ) ซึ่งสูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนจากสินเชื่ออยู่ที่ 18.2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย
  • (+) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII): Non-NII อยู่ที่ 1.08 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 22% QoQ นำโดยรายได้ที่แข็งแกร่งจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่เพิ่มขึ้น 11% YoY
  • (-) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost-to-income ratio): Opex เพิ่มขึ้น 20% YoY และ 14% QoQ เป็น 3.12 พันล้านบาทใน Q4/67 นำโดยค่าใช้จ่ายทางการตลาด ขาดทุนจากการยึดรถ และค่าธรรมเนียมเอาท์ซอร์ส อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 60.9% ซึ่งสูงกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 58%
  • (+) คุณภาพสินทรัพย์: TIDLOR รายงานอัตราส่วน NPL ที่ 1.81% ใน Q4/67 เทียบกับ 1.88% ใน Q3/67 ซึ่งเป็นไปตามที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกัน ต้นทุนเครดิตใน Q4/67 อยู่ที่ 2.72% (ต่ำกว่าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 3.4%) เนื่องจากการตัดหนี้เสียที่ต่ำ มูลค่า 609 ล้านบาท FSSIA มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR และจำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป อัตราการก่อตัวของ NPL ที่ FSSIA คำนวณสำหรับ TIDLOR อยู่ที่ 213bp เทียบกับจุดสูงสุดที่ 434bp ใน Q2/67 อัตราส่วนความครอบคลุม NPL อยู่ที่ 243% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่ม peers

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ TIDLOR โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 20.50 บาท (อิงจาก GGM ที่ 1.61x P/BV โดยมี LT-ROE ที่ 14.0% และ COE ที่ 10.2%) โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อการสร้างผลตอบแทนจากสินเชื่อที่สูงขึ้นและรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ของ TIDLOR โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุก โดยคาดการณ์ต้นทุนเครดิตที่ 3.3% สำหรับปี 2568 เทียบกับ 3.4% สำหรับปี 2567

วิธีคิดราคาเป้าหมาย: อิงตาม GGM (Gordon Growth Model) โดยใช้ P/BV ที่ 1.61 เท่า, LT-ROE (Long-Term Return on Equity) ที่ 14.0% และ COE (Cost of Equity) ที่ 10.2%

สรุป

TIDLOR รายงานผลประกอบการ Q4/67 ที่แข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิเป็นไปตามที่คาดการณ์ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจาก NIM ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น แต่ต้นทุนเครดิตที่ต่ำกว่าคาดการณ์ช่วยหนุนผลกำไร FSSIA ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ TIDLOR และคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท

โพสต์ล่าสุด