บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

BYD ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น CBG เป็น "ถือ" โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 49.00 บาท เนื่องจากเล็งเห็นถึงความรุนแรงของการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มให้พลังงาน และกำลังซื้อที่ชะลอตัวในกัมพูชาซึ่งเป็นตลาดหลักต่างประเทศของ CBG

วิเคราะห์ผลประกอบการและปัจจัยเสี่ยง

BYD คาดการณ์ผลประกอบการ 4Q25E จะใกล้เคียงหรือดีกว่า 3Q25 เล็กน้อย จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวและรายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นก่อนเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนอลูมิเนียมที่เพิ่มขึ้น +6% y-y เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม แม้ว่าต้นทุนเศษแก้วสีแดงจะลดลง -20% y-y และช่วยชดเชยได้บางส่วน

สถานการณ์ในกัมพูชาเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย แม้ผู้บริหารจะมองว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่การฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลา CBG เตรียมปรับกลยุทธ์สินค้าให้เข้ากับท้องถิ่นมากขึ้นด้วยการสร้างแบรนด์ใหม่สำหรับคนกัมพูชา อย่างไรก็ตาม BYD มองว่าเศรษฐกิจกัมพูชาที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ IMF ได้ปรับลดประมาณการ GDP ของกัมพูชาลง

นอกจากนี้ CBG มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ราคา 12 บาท เพื่อเพิ่มทางเลือกและจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคุณประโยชน์เพิ่มเติม แม้ว่าอาจเกิดการแย่งยอดขายกันเอง (Cannibalization) บ้าง แต่สินค้าใหม่มีอัตรากำไรที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม BYD คาดว่าคู่แข่งจะตอบโต้ด้วยแคมเปญการตลาด ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นและค่าใช้จ่าย SG&A อาจเพิ่มขึ้น

ข้อสังเกตและประมาณการ

BYD ใช้วิธี DCF ในการประเมินราคาเป้าหมาย โดยมีสมมติฐาน WACC ที่ 9.7% และ Terminal growth rate ที่ 2.0% ประมาณการรายได้ปี 2025E ที่ 22,079 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,802 ล้านบาท ลดลง (-1.4%)

สรุป

BYD ปรับคำแนะนำ CBG เป็น "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมาย 49.00 บาท เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาดเครื่องดื่มให้พลังงาน และกำลังซื้อที่ชะลอตัวในกัมพูชา นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด