UKEM ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา เน้นลงทุนเพิ่มศักยภาพ พร้อมรุกตลาดเคมีภัณฑ์รักษ์โลก ปี 2568

P/E 9.52 YIELD 1.67 ราคา 0.60 (0.00%)

UKEM ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจซบเซา เน้นลงทุนเพิ่มศักยภาพ พร้อมรุกตลาดเคมีภัณฑ์รักษ์โลก ปี 2568

สรุปผลการดำเนินงานและข้อมูลสำคัญจากงาน Oppday ของบริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) (UKEM) ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 เพื่อให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์และนำไปประกอบการตัดสินใจลงทุน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  • ธุรกิจเผชิญความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากและการแข่งขันสูง
  • ความต้องการในตลาดภายในประเทศลดลง เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตในประเทศ (95%)
  • ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ:
    1. การส่งออกชะลอตัว
    2. การบริโภคภายในประเทศลดลง
    3. ความไม่แน่นอนของฐานภาษี
    4. หนี้ครัวเรือนสูง
  • ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (โครงการคนละครึ่ง)
  • อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตในหลายประเทศ (ไทย, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี)

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • อุตสาหกรรมที่ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง:
    1. อาหารและการแปรรูปอาหาร (บรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์)
    2. ยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ และเวชสำอาง (packaging และเคมีภัณฑ์บางชนิด)
    3. การท่องเที่ยว การบริการ โรงแรม ร้านอาหาร (การทำความสะอาดและการต้อนรับนักท่องเที่ยว)
    4. เทคโนโลยีดิจิทัล โซลูชันการเงิน ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (สนับสนุนลูกค้าให้มียอดขายเพิ่มขึ้น)
  • การลงทุนใน terminal แห่งใหม่ที่โรจนะแหลมฉบัง ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการโลจิสติกส์
  • การร่วมทุนกับบริษัทญี่ปุ่นใน UGJ Green Solution เพื่อรีไซเคิลเคมีภัณฑ์หลากหลายชนิดด้วยคุณภาพสูง

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • อุตสาหกรรมที่ชะลอตัว:
    1. ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ (เครื่องยนต์สันดาปภายในลดลง, EV ยังต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ)
    2. อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง (อุปสงค์อุปทานไม่สมดุล)
    3. ปิโตรเคมีภัณฑ์ พลาสติก สารเคมี งานเคลือบ (การแข่งขันจากต่างประเทศ, กำลังการผลิตไม่เต็มที่)
    4. อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (การย้ายฐานการผลิตยังต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ)

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • การบริหารจัดการต้นทุน: ลดต้นทุนขายเฉลี่ยให้มากกว่าราคาขายเฉลี่ย
  • การบริหารจัดการสต็อก: ลดสินค้าคงเหลือและใช้ระบบ Just-in-Time
  • การลงทุนใน terminal แห่งใหม่: ลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดจำหน่าย
  • การร่วมทุนใน UGJ Green Solution: สร้างธุรกิจใหม่ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • เน้นการรักษาความสมดุลในการบริหารจัดการและควบคุมต้นทุน
  • วางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยัง water-based chemicals เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ติดตามการลงทุนจากต่างประเทศและมองหาโอกาสในการร่วมธุรกิจ
  • ตั้งเป้าที่จะรักษาการเติบโตอย่างมั่นคงและไม่หวือหวา

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:07:11]

ผู้บริหารได้ตอบคำถามจากผู้สนใจลงทุนในประเด็นต่างๆ ดังนี้:

  • กำไรสุทธิ Q3/2568 เพิ่มขึ้นมาก แม้รายได้ลดลง เกิดจากอะไร?

    กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งบริษัทแม่และบริษัทลูก (Lion Asia) โดยบริษัทลูกเน้นทำตลาดเม็ดพลาสติกมากขึ้น บริษัทแม่บริหารต้นทุนได้ดีขึ้น มีสินค้าคงคลังน้อยลง (ใช้ Just-in-time) ภาระดอกเบี้ยลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิมากขึ้น

  • แผนกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ และขยายฐานลูกค้า?

    ธุรกิจใหม่เน้นนำเคมีกลับมาทำใหม่ (Recycle) ลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก นอกจากนี้จะหาธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบที่เป็นพิษน้อยลง (Water-based) หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เจาะลูกค้ากลุ่มเดิมที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแตกไลน์ไปสู่ลูกค้าใหม่

  • ราคาขายเฉลี่ยสินค้าลดลง กระทบรายได้และกำไรในอนาคต?

    ราคาขายเฉลี่ยลดลงจริง แต่ต้นทุนขายเฉลี่ยลดลงมากกว่า ทำให้กำไรขั้นต้นดีขึ้น คาดว่าแนวโน้มในไตรมาสถัดไปจะยังคงดีขึ้นเล็กน้อย หรือใกล้เคียงกับไตรมาส 3

  • ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนธุรกิจ recycle และบรรจุภัณฑ์?

    บริษัทลูก (UTJ Green Solution) ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI บริษัทแม่เข้าโครงการ ESG และ Carbon Credit ได้รับการรับรองจาก อบก. และ ISO 14064-1 (Carbon Footprint ระดับองค์กร)

  • บริหารจัดการสต็อกสินค้า และต้นทุน รองรับความผันผวนราคาวัตถุดิบ?

    บริษัทมีสต็อกสินค้าในราคาที่ผ่านช่วงลดราคามาแล้ว ปัจจุบันราคาวัตถุดิบหลายตัวอยู่ในฐานล่าง (ราคาน้ำมันดิบอยู่ในช่วง 60 เหรียญ) ทำให้ไม่ต้องตั้งสำรองสินค้า บริษัทลดสินค้าคงเหลือและใช้ Just-in-time ทำให้งบการเงินมีความเสี่ยงน้อยลง

  • ผู้บริหารมองความเสี่ยงและโอกาสในไตรมาส 4?

    ความเสี่ยงหลักคือผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจเปลี่ยนแปลง และสถานการณ์ Geopolitical ที่อาจกระทบการบริโภคและ BOI โอกาสคือการหาประเทศที่ 3 ที่ 4 ที่ปลอดภัยในการลงทุน การย้ายฐานการผลิตมายังไทย ไตรมาส 4 เป็นช่วงที่ต้องทำตัวเลขล่วงหน้า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ได้ตามเป้า และไม่แพ้ปีที่แล้ว

  • แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4?

    บริษัทเตรียมตัวมาดี คาดว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี มีบริษัทลูก (มหานคร Capital) ที่ยังทำผลประกอบการได้ดี (สินเชื่อรถยนต์มือสอง) บริษัทจะรักษาสมดุลและพยายามทำให้ตัวเลขการดำเนินงานค่อนข้างนิ่งในปีหน้า

สรุป

UKEM เผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการใช้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของตลาดในอนาคต

โพสต์ล่าสุด