SHR ฝ่าวิกฤต พลิกกำไร Q3 ปี 2566 โตกว่า 300% มอง Q4 สดใส รับ High Season

P/E 11.94 YIELD 1.90 ราคา 1.58 (0.00%)

SHR ฝ่าวิกฤต พลิกกำไร Q3 ปี 2566 โตกว่า 300% มอง Q4 สดใส รับ High Season

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**
  • ปัจจุบัน SHR มีโรงแรมทั้งหมด 33 แห่ง จำนวนห้องพักกว่า 4,000 ห้อง ใน 5 ประเทศที่เป็น Travel Destination ได้แก่ ไทย, มัลดีฟส์, มอริเชียส, ฟิจิ, และสหราชอาณาจักร

  • Key Focus ในปี 2566 คือการ Rebrand โรงแรม 4 แห่งในสหราชอาณาจักร โดย 1 โรงแรมดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ใหม่ The Unlimited Collection ในเอดินเบิร์ก

  • มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแบรนด์โรงแรมอีก 3 แห่ง โดย 1 แห่งจะเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ The Unlimited Collection ในเลสเตอร์ ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ส่วนอีก 2 แห่งในกลาสโกว์และแมนเชสเตอร์ จะปรับเปลี่ยนแบรนด์มาอยู่ภายใต้แบรนด์ Life ภายใต้ Ascott คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2569

  • แบ่งกลุ่มการทำกำไร EBITDA Margin ออกเป็น 3 กลุ่ม: บริหารจัดการเองภายใต้แบรนด์ตัวเอง (40%), บริหารจัดการเองภายใต้สัญญาแฟรนไชส์ (30-35%), และจ้างบุคคลที่สามบริหารจัดการ (25-30%)

  • สัดส่วนรายได้ที่คาดการณ์ในปี 2566: สหราชอาณาจักร (33%), มัลดีฟส์ (26%), ประเทศไทย (22%), และฟิจิ/มอริเชียส (20%)

  • ผลกระทบเชิงบวกในไตรมาส 3: RevPar ปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยหลักมาจากโรงแรมในประเทศไทย (+31%) และโรงแรมในมอริเชียส (+22%)

  • กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ทำให้รายงานอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 40% ในไตรมาส 3 (เทียบกับ 38% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน)

  • สามารถปรับลดต้นทุนทางการเงินลงถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

  • พลิกจากขาดทุน 50 กว่าล้านบาท มาเป็นกำไร 129 ล้านบาทในไตรมาส 3 (เติบโตกว่า 300%)

  • กำไรหากไม่นับรวมรายการพิเศษต่างๆ อยู่ที่ 186 ล้านบาท

  • ยังคงรักษาระดับคะแนน CG Scoring ในระดับดีเลิศต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**
  • การ Rebrand และ Reposition โรงแรมในสหราชอาณาจักรเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร

  • การพัฒนา Eco Luxury Experience ให้เป็นจุดขาย โดยเน้นการท่องเที่ยวแบบรักษ์ธรรมชาติและเชื่อมโยงกับชุมชน

  • การพัฒนาโครงการ Green Bottle เพื่อให้แขกมีส่วนร่วมในการดูแลโลกและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

  • การใช้ประโยชน์จาก Marine Discovery Center เพื่อให้ผู้เข้าพักได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล

  • การพัฒนา Eco-Friendly Event เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีให้กับลูกค้าที่ต้องการจัดงานทางด้านนี้

  • มองหาโอกาสในการปรับเปลี่ยน Portfolio เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายโรงแรมบางส่วนไปใช้ในการปรับปรุงและ Acquire Property ที่มีโอกาสในการทำกำไรสูง

  • การขยายฐานลูกค้าผ่าน GHA (Global Hotel Alliance) ซึ่งเป็น Customer Loyalty Program ที่มีสมาชิกทั่วโลก

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**
  • การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบต่อรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ

  • สถานการณ์ Geopolitical Tension ที่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค

  • การแข่งขันในตลาดโรงแรมที่สูง

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**
  • การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

  • การปรับลดต้นทุนทางการเงินผ่านการ Refinance และ Negotiate กับสถาบันการเงิน

  • การ Diversify Source Market เพื่อลดการพึ่งพิงรายได้จากประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ

  • การใช้ Flexible Marketing Strategy เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก

  • การ Maintain และ Uplift โรงแรม Top Performer ใน Portfolio

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**
  • คาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 โดยมีประเทศไทยและมัลดีฟส์เป็นกลไกสำคัญ

  • ยังคงมุ่งมั่นตามกลยุทธ์ Asset Rotation เพื่อ Recycle Capital และลงทุนใน Asset ที่สามารถ Generate Return ได้ดีกว่า

  • เน้นขยาย Portfolio ที่เน้น Quality และ Asset ที่มีคุณภาพสูง

  • ยังคงเน้นโรงแรมในไทยและเอเชียแปซิฟิกในการดำเนินกลยุทธ์ต่อไปในอนาคต

  • เป้าหมาย Carbon Neutral ภายในปี 2030

  • เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ (Key Biodiversity) 30% ภายในปี 2030

  • พัฒนา Eco Luxury Experience ให้เป็นจุดขาย

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 44:34]**
  1. GHA (Global Hotel Alliance) คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร?
    • GHA เป็น Customer Loyalty Program คล้ายกับการสะสมไมล์ของสายการบิน

    • มีโรงแรมที่เป็นสมาชิกทั่วโลกกว่า 32 ล้านราย

    • ช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายผ่าน Global Network ของ Alliance

    • ตั้งแต่ Launch มาในเดือนกรกฎาคม สามารถมียอดจองผ่านช่องทางนี้ได้แล้วร่วม 100 ล้านบาทในโรงแรมในประเทศไทย

  2. การได้รับการรับรอง Green Globe ส่งผลต่อแบรนด์และธุรกิจอย่างไร?
    • Sustainability เป็นหนึ่งใน Core Pillar ของแบรนด์ Sai

    • ตอกย้ำความสำคัญของสิ่งแวดล้อม, ธุรกิจ, และชุมชน

    • ดึงดูดลูกค้าบางกลุ่ม (โดยเฉพาะจากยุโรป) ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมด้าน SD

    • สามารถเพิ่มและขยายฐานลูกค้าและนำมาทำกิจกรรม SD เพื่อเพิ่มยอดขายและยอดจองได้

  3. แนวโน้มในไตรมาส 4 จะเป็นอย่างไร?
    • ส่วนใหญ่จะเป็น High Season ของไทยและมัลดีฟส์

    • คาดว่าโมเมนตัมการเติบโตจะดี

  4. ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนมีผลกระทบอย่างไร?
    • คาดว่าจะ Demand ที่มาสู่ประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น

    • เป็น Spillever Effect ที่เป็น Positive สำหรับประเทศไทย

  5. กลยุทธ์ในการเติบโตในอนาคตคืออะไร?
    • Enhance Asset Quality

    • Asset Rotation

    • ปรับ Portfolio ให้สามารถสร้าง Margin และ Return on Investment ได้ดีขึ้น

  6. แนวโน้มรายได้และกำไรของ Q4 จะดีกว่า Q3 หรือไม่?
    • โดยทั่วไป Q4 จะ Perform ได้ดีกว่า Q3

    • ไทยและมัลดีฟส์เริ่มเข้าสู่ High Season

    • การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจะคึกคักมากในเดือนธันวาคม

    • มอริเชียสก็เช่นกัน Demand ก็จะเพิ่มขึ้น

    • UK และฟิจิ แม้ว่าจะลดลง แต่ก็ยังคงโมเมนตัมที่ดีในช่วง Festive Period

**ชื่อหัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป**
  • GHA (Global Hotel Alliance): พลังแห่งเครือข่ายโรงแรมระดับโลก
  • Green Globe Certification: ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืน
  • Q4 Outlook: โอกาสทองของ High Season
  • Japan-China Relations: โอกาสใหม่ของตลาดท่องเที่ยวไทย
  • Future Growth Strategy: เส้นทางสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
  • Q4 Performance: คาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
**สรุป:** SHR ประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2566 โดยมีกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและการปรับตัวที่รวดเร็วต่อสถานการณ์ต่างๆ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตโดยเน้นการเพิ่มคุณภาพของสินทรัพย์และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

โพสต์ล่าสุด