บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SCGP: KGI ปรับลดคำแนะนำเป็น Underperform คาดกำไร Q4/25 ลดลง
P/E 23.56 YIELD 3.57 ราคา 15.40 (0.00%)
KGI ปรับลดคำแนะนำ SCGP เป็น Underperform ให้ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท มองความต้องการบรรจุภัณฑ์ชะลอตัวในจีน และการฟื้นตัวในไทยยังจำกัด
ไฮไลท์สำคัญ
- KGI ปรับลดคำแนะนำ SCGP จาก Outperform เป็น Underperform พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 14.40 บาท
- SCGP คาดว่าจะเผชิญแรงกดดันด้านอัตรากำไรและปริมาณขาย เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว
- อุปทานในประเทศที่มากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงที่จีนจะทุ่มตลาดกระดาษใน ASEAN
- การฟื้นตัวของประเทศไทยยังคงซบเซา จากกำลังซื้อที่ต่ำ ภาวะน้ำท่วม และนักท่องเที่ยวที่ลดลง
ผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนและไทย
KGI มองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังจากจีนส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับ SCGP โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ อุปทานที่มากเกินไปในจีนอาจนำไปสู่การทุ่มตลาดกระดาษใน ASEAN ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออัตรากำไรของ SCGP ในขณะเดียวกัน การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังคงถูกจำกัดด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ภาวะน้ำท่วม และการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความต้องการบรรจุภัณฑ์ในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดหลักของ SCGP
KGI คาดการณ์ว่ากำไรหลักใน Q4/25 จะลดลง QoQ แม้ว่าโดยปกติแล้วจะเป็นช่วงที่มีปริมาณการขายสูงก็ตาม บริษัทอาจเผชิญกับความท้าทายในการปรับขึ้นราคาขายให้สอดคล้องกับ Indah Kiat (APP) ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ในขณะที่ปริมาณการขายอาจถูกจำกัดจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่ดีของจีน นอกจากนี้ เส้นทางการฟื้นตัวของ Fajar ยังคงเป็นปัญหาที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าจะบรรลุเป้าหมายผลกำไรในปี 2026F ได้เมื่อใด เนื่องจากการบริโภคที่ชะลอตัวในอินโดนีเซีย
ข้อสังเกตและวิธีคิด
- KGI ปรับลดประมาณการกำไรปี 2025F-27F ลง 3-6% เพื่อสะท้อนถึงปริมาณการขายและราคาขายที่ลดลง
- ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 14.40 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 6.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
- ความเสี่ยงสำคัญ คือการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดในจีนและไทย
- KGI ใช้วิธีประเมินมูลค่าด้วย EV/EBITDA โดยอิงจากค่าเฉลี่ยในอดีตและปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
สรุป
KGI ปรับลดคำแนะนำ SCGP เป็น Underperform เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและการฟื้นตัวในไทยที่ยังคงซบเซา แม้ว่า SCGP จะเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี แต่ปัจจัยภายนอกเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในระยะสั้นถึงกลาง
นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงทุนใน SCGP