บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

FSSIA มีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจใหม่ของ BJC แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2570 สะท้อนสมมติฐานที่ระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังคงคำแนะนำ "ถือ"

FSSIA มอง BJC อย่างไร

FSSIA มองเห็นความคืบหน้าในธุรกิจใหม่ของ BJC โดยมีจุดสนใจหลักในปี 2569 ได้แก่ 1) การปรับปรุงสินค้าและร้านค้า 2) การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล 3) ความร่วมมือด้านโลจิสติกส์กับ DHL บริษัทยังคงเปิดตัว SKU ใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่อาหารเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง และเปิดตัวสินค้า private labels ในกลุ่ม RTE มากขึ้น ซึ่งให้ GPM ที่สูงขึ้น (คิดเป็น 17% ของยอดขาย Big C ในไตรมาส 3/2568) Big C วางแผนที่จะปรับปรุงร้านค้า 18 แห่งในปี 2569 (16 และ 17 แห่งในปี 2567-2568) โดยบริษัทวางแผนที่จะลดผลกระทบโดยลดเวลาการปรับปรุงจากประมาณ 80 วันเป็นประมาณ 50 วัน และกระจายการปรับปรุงร้านค้าอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ BJC ได้จัดตั้ง JV กับ DHL เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร และสำรวจโอกาสทางธุรกิจด้านการจัดจำหน่าย Bang pa-in DC เปิดตัวในไตรมาส 3/2568 โดย BJC เป็นเจ้าของสินทรัพย์ และดำเนินการโดย DHL เป็นหลัก DC นี้รองรับ Big C และ Pure pharmacy ด้วยพื้นที่รวม 89,000 ตร.ม. บริษัทคาดว่าจะได้รับผลบวกที่สำคัญ 2 ประการจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ DHL ได้แก่ 1) ผลประโยชน์ทั้งหมดจากการประหยัดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และส่วนแบ่งกำไรของ JVs สูงถึง 360 ล้านบาทภายในปี 2571 และ 2) การเจาะตลาดจัดจำหน่ายด้านการดูแลสุขภาพ โดยใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อของ DHL และมาตรฐานโลจิสติกส์ระดับโลก บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขาย BJC pharmacy เป็นสามเท่า (คิดเป็น 2.3% ของยอดขายทั้งหมด) ภายในปี 2573

ข้อสังเกตและประมาณการ

SSS ในไตรมาส 4/2568 ลดลง 3.5% y-y จากฐานที่สูงของ digital wallets ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2568 FSSIA คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/2568 จะยังคงลดลง y-y ตาม SSS ที่อ่อนตัวลงและฐาน GPM ที่สูง ดังนั้นจึงได้ปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2568-2570 ลง 5%/5.4%/6.2% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึง SG&A/Sales ที่สูงกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าสิ่งนี้จะได้รับการชดเชยบางส่วนจากผลประโยชน์จากความร่วมมือกับ DHL คาดว่ากำไรหลักปี 2568 จะลดลง 3.1% y-y แต่คาดว่าปี 2569 จะเติบโตเล็กน้อย 3.7% y-y

สรุปและคำแนะนำ

FSSIA มีมุมมองเชิงบวกต่อ BJC จากการริเริ่มทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ควรเริ่มเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากภูมิทัศน์การแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน จึงยังคงคำแนะนำ "ถือ" BJC โดยมีราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ที่ 20.5 บาท (WACC 7.8%, TG 1.5%)

ราคาเป้าหมาย: 20.50 บาท
ราคาปิดล่าสุด: 17.20 บาท
Upside: +19.2%