บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

SEAFCO โชว์ผลงานไตรมาส 3/25 กำไรสุทธิ 87 ล้านบาท โต 135% จากไตรมาสก่อนหน้า และพลิกจากขาดทุน 11 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โบรกเกอร์ FSSIA เผยกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลประกอบการที่น่าจับตา

รายได้รวมพุ่งสูงถึง 478 ล้านบาท (+19% q-q, +41% y-y) สูงสุดในรอบสองปี เนื่องจากการก่อสร้างเต็มรูปแบบใน 4 สถานี และเริ่มงานขุดเจาะอุโมงค์ในสถานีที่ 5 ปริมาณการเทคอนกรีตเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 CBM/วัน จาก 852 CBM/วันในไตรมาส 2/25 และ 526 CBM/วันในไตรมาส 3/24 อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวเป็น 26.8% ทำสถิติสูงสุดใหม่ จาก 21.5% ในไตรมาส 2/25 และ 3.2% ในไตรมาส 3/24 หนุนโดย Economies of scale จากรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้น และสัดส่วนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานถูกควบคุมอย่างดี โดย SG&A ลดลง 10% q-q และ 6% y-y แม้ว่ารายได้จะสูงขึ้นก็ตาม ต้นทุนทางการเงินก็ลดลง 7% q-q ตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ลดลง

ข้อสังเกตและแนวโน้ม

FSSIA คาดการณ์ว่ากำไรในไตรมาส 4/25 จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากวันหยุดยาวตามฤดูกาล แต่โมเมนตัม y-y ยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 27 ล้านบาทในไตรมาส 4/24 รายได้ในไตรมาส 4/25 คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย q-q แต่ยังคงสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ y-y โดยได้รับการสนับสนุนจาก GPM ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในห้าสถานีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ผลกระทบจะถูกชดเชยด้วยงานเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่องในสถานีที่ห้า ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยรักษาระดับปริมาณการเทคอนกรีตเฉลี่ยต่อวันให้สูงกว่า 1,000 CBM/วัน (เทียบกับ 449 CBM/วันในไตรมาส 4/24)

สรุปและคำแนะนำ

FSSIA ให้ราคาเป้าหมาย SEAFCO ที่ 3.00 บาท อิงตามแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคาเป้าหมายจะต่ำกว่า Consensus เล็กน้อย (-6.7%) แต่ยังคงมี Upside ที่น่าสนใจถึง +42.9% จากราคาปิดล่าสุดที่ 2.10 บาท