บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA ประเมินผลประกอบการ SC Asset Corporation ในไตรมาส 3 ปี 2568 และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต

ภาพรวมผลการดำเนินงาน 3Q25

SC Asset Corporation รายงานกำไรสุทธิ 390 ล้านบาทใน 3Q25 ลดลง 7% q-q และ 23% y-y รวมถึงกำไรพิเศษ 42 ล้านบาทจากการลงนามในสัญญา JV ใหม่ หากไม่รวมรายการนี้ กำไรหลักจะอยู่ที่ 348 ล้านบาท ลดลง 17% q-q และ 31% y-y ซึ่งเป็นไปตามที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ ยอดโอนกรรมสิทธิ์รวมลดลงเหลือ 4.7 พันล้านบาท ลดลง 4% q-q และ 15% y-y เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบที่อ่อนแอลง ในขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมอยู่ที่ 734 ล้านบาท ลดลง 9% q-q แต่เพิ่มขึ้น 7% y-y อัตรากำไรขั้นต้นของอสังหาริมทรัพย์ยังคงอ่อนตัวลงอยู่ที่ 26.3% เนื่องจากการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย การควบคุมต้นทุนยังคงมีประสิทธิภาพ โดย SG&A ต่อรายได้อยู่ที่ 18.1% ใกล้เคียงกับ 2Q25 และ 3Q24 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ที่ 93 ล้านบาท ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก JV เพิ่มขึ้นเป็น 39 ล้านบาท เนื่องจากการเปิดโรงแรม KROMO Bangkok

แนวโน้มในอนาคต

กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 921 ล้านบาท ลดลง 24% y-y คิดเป็น 65% ของประมาณการทั้งปีของ FSSIA FSSIA คาดว่ากำไรใน 4Q25 จะฟื้นตัว q-q และเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดของปี เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่สูงขึ้นจาก backlog บ้านแนวราบประมาณ 6.1 พันล้านบาท ณ สิ้น 3Q25 อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นของอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะยังคงต่ำเนื่องจากบริษัทยังคงใช้กลยุทธ์การขายที่เน้นราคาเป็นหลัก

ข้อสังเกต

FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 17% y-y ก่อนที่จะฟื้นตัว 23% y-y ในปี 2569 และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 2.0 บาท FSSIA มองว่าหุ้น SC อาจมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยคาดว่ากำไรจะถึงจุดต่ำสุดใน 3Q25 ตามด้วยการฟื้นตัวใน 4Q25 และแรงผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องใน 1H26 โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการ

สรุป

FSSIA คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ SC โดยมีราคาเป้าหมายที่ 2.0 บาท (Upside 23.5%) มองว่าผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 4 และเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีแรกของปี 2569 จากโครงการใหม่