บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
GUNKUL ปิด Gap Adder หมดอายุ BLS ชี้กำลังผลิตใหม่ 177MW หนุนโต
P/E 9.17 YIELD 4.10 ราคา 1.95 (0.00%)
BLS แนะนำ "ซื้อ" หุ้น GUNKUL มองข้ามผลกระทบ Adder หมดอายุ ด้วยกำลังผลิตใหม่ที่จะเข้ามาหนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
กำไรสุทธิสูงกว่าคาด
GUNKUL รายงานกำไรสุทธิ Q3/68 ที่ 457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY แต่ลดลง 6% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่ BLS คาดการณ์ไว้ 6% และสูงกว่าที่ตลาดคาด 11% หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 457 ล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ลดลง 12% QoQ โดยกำไรหลักสูงกว่าที่ BLS และตลาดคาดการณ์ เนื่องมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ GUNKUL ยังประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.04 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 2% (XD วันที่ 27 พ.ย. และจ่ายปันผลวันที่ 11 ธ.ค.)
รายได้ลด แต่กำไรขั้นต้นเพิ่ม
รายได้ของ GUNKUL ปรับตัวลดลง 29% YoY เนื่องจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจซื้อขายไฟ แต่รายได้เพิ่มขึ้น 1% QoQ จากธุรกิจก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.4% เพิ่มขึ้นจาก 31.2% ใน Q3/67 (จากธุรกิจการผลิตและขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า) แต่ลดลงจาก 41.5% ใน Q2/68 (จากธุรกิจก่อสร้างที่ลดลง) ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น 32% YoY และ 104% QoQ เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมภายใต้โครงการร่วมทุน GULF-GUNKUL เพิ่มขึ้น
แนวโน้ม Q4/68 และการลงทุนใน EEC
BLS คาดการณ์ว่ากำไรหลักใน Q4/68 จะปรับตัวลง YoY (เนื่องจากอัตราค่า Ft ที่ลดลงและรายได้จากธุรกิจ EPC ที่ลดลง) และ QoQ (ปัจจัยฤดูกาล) อย่างไรก็ตาม BLS ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 2568 ไว้ที่ 1.6 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1% YoY) และปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็นสิ้นปี 2569 โดยมีราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.84 บาท (ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 4.08 บาท) นอกจากนี้ BLS ยังมองเห็นโอกาสจากการลงทุนในโครงการไฮเปอร์สเกลเลอร์หลายกิกะวัตต์ในพื้นที่ EEC ซึ่งจะช่วยหนุนอุปสงค์ในการปรับปรุงระบบส่งกำลังไฟฟ้าและการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจบริการก่อสร้างของ GUNKUL
คำแนะนำ "ซื้อ" และเหตุผลสนับสนุน
BLS แนะนำ "ซื้อ" หุ้น GUNKUL โดยมีเหตุผลสนับสนุนจากการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ตามกำหนดของฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2569 จำนวน 177 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถกลบผลกระทบจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่รับอัตราค่าไฟฟ้าแบบ Base Rate + Adder ที่จะหมดอายุลงในปีนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกำไรหลักในปี 2570
BLS ให้ราคาเป้าหมาย 3.84 บาท โดยวิธีคิดคือการประเมินมูลค่าด้วยวิธี Target multiple PER ที่ 10.3 เท่า สำหรับปี 2569