บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
MJD กำไรหด! ไตรมาส 3 รายได้วูบ 42.56% ขาดทุนอ่วม 370 ล้านบาท
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.36 (0.00%)
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เผชิญความท้าทายในไตรมาส 3 ปี 2568 รายได้รวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมอยู่ในภาวะขาดทุน
ภาพรวมผลประกอบการ
MJD รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้รวม 344.49 ล้านบาท ลดลงถึง 42.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และสำหรับงวด 9 เดือน มีรายได้รวม 1,157.56 ล้านบาท ลดลง 36.59% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายและการลดลงของรายได้จากกิจการโรงแรม
ปัจจัยกระทบรายได้และกำไร
- รายได้จากการขาย: ลดลง 56.86% ในไตรมาส 3 และ 56.67% ในช่วง 9 เดือน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงในโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม
- รายได้จากกิจการโรงแรม: ลดลง 60.48% ในไตรมาส 3 และ 20.47% ในช่วง 9 เดือน เนื่องจากการขายกิจการโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยาในช่วงสิ้นงวดไตรมาส 2/2568
- รายได้ค่าบริหารจัดการ: เพิ่มขึ้น 30.38% ในไตรมาส 3 และมากกว่า 100% ในช่วง 9 เดือน จากการเพิ่มขึ้นของสัญญาว่าจ้างบริหารโครงการและบริการนายหน้าโครงการที่พัฒนาภายใต้กิจการร่วมค้า
- รายได้ค่าเช่า: เพิ่มขึ้น 52.88% ในไตรมาส 3 และ 36.31% ในช่วง 9 เดือน จากการเพิ่มขึ้นของผู้เช่าอาคารห้องชุดและอาคารสำนักงาน รวมถึงค่าเช่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น
- ต้นทุนขาย: ลดลง 56.20% ในไตรมาส 3 และ 51.96% ในช่วง 9 เดือน เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลง
- ค่าใช้จ่ายในการขาย: ลดลง 69.36% ในไตรมาส 3 และ 54.61% ในช่วง 9 เดือน เนื่องจากการลดลงของค่านายหน้า ค่าใช้จ่ายในการโอน และค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ค่าใช้จ่ายในการบริหาร: ลดลง 33.57% ในไตรมาส 3 และ 15.05% ในช่วง 9 เดือน เนื่องจากการปันส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารไปเป็นต้นทุนบริหารจัดการตามสัญญาบริหารจัดการโครงการของกิจการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น
- ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในการร่วมค้า: ขาดทุนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในไตรมาส 3 และช่วง 9 เดือน เนื่องจากการลดลงของการโอนกรรมสิทธิ์ในกิจการร่วมค้า
สินทรัพย์และหนี้สิน
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568:
- สินทรัพย์รวม: 17,570.86 ล้านบาท ลดลง 0.01% จากสิ้นปี 2567
- หนี้สินรวม: 13,934.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.05% จากสิ้นปี 2567
- ส่วนของผู้ถือหุ้น: 3,636.74 ล้านบาท ลดลง 0.17% จากสิ้นปี 2567
บทสรุปและข้อสังเกต
MJD ประสบผลขาดทุนสำหรับงวด 3 เดือน จำนวน 370.00 ล้านบาท และสำหรับงวด 9 เดือน จำนวน 732.71 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการหยุดรับรู้ดอกเบี้ยเข้าเป็นต้นทุนสำหรับบางโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นของหุ้นกู้ที่ออกใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ของบริษัทย่อยจากการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่รับรู้ไว้ในงวดก่อน