บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
BTG: FSSIA อัพเกรดเป็น "ซื้อ" คาดราคาหมูหนุนกำไร
P/E 5.07 YIELD 2.87 ราคา 17.50 (0.00%)
FSSIA ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" สำหรับ BTG โดยมีราคาเป้าหมาย 20 บาท มองราคาหมูที่ฟื้นตัวเป็นปัจจัยหนุน
ประเด็นสำคัญ
- กำไร Q3/25 ลดลงตามคาดจากราคาหมูที่ลดลง
- ราคาหมูฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าจะสูงขึ้นต่อเนื่องใน 1H26
- ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 20 บาท
ผลการดำเนินงาน 3Q25
BTG รายงานกำไรสุทธิ 1.17 พันล้านบาทใน 3Q25 ลดลง 55.0% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 19.1% YoY เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ กำไรหลักอยู่ที่ 1.22 พันล้านบาท ลดลง 53.4% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 34.9% YoY การลดลงของกำไร QoQ มีสาเหตุหลักมาจากราคาหมูที่ลดลง โดยเฉพาะในประเทศไทยและกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม กำไร YoY เติบโตจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขาย 7.3% และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง โดยราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองลดลง 14.2% YoY และ 28.3% YoY ตามลำดับ กำไรสุทธิ 9M25 อยู่ที่ 5.66 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 281.5% YoY คิดเป็น 85.9% ของประมาณการทั้งปีของ FSSIA
แนวโน้มราคาหมูและการลงทุน
ราคาหมูในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สู่ระดับ 62-64 บาท/กก. (+15-18% MoM) กลับสู่ระดับที่สูงกว่าต้นทุนคุ้มทุน การฟื้นตัวนี้เป็นผลมาจากการสิ้นสุดเทศกาลกินเจ การขาดแคลนแรงงานที่คลี่คลายลง และผลกระทบเชิงบวกจากการลดอุปทานโดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ
แม้ว่าราคาหมูเฉลี่ยสำหรับ 4QTD จะอยู่ที่ 55.2 บาท/กก. (-13.8% QoQ, -21.8% YoY) แต่ราคาที่สูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปีอาจสนับสนุนการเติบโตของกำไร QoQ ใน 4Q25 ผู้บริหารคาดว่าราคาหมูจะสูงขึ้นต่อเนื่องไปจนถึง 1H26 และอาจสูงถึงประมาณ 70 บาท/กก.
สรุปและคำแนะนำ
FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26 และราคาเป้าหมายไว้ที่ 20 บาท (PE 12 เท่า) การฟื้นตัวของราคาหมูในประเทศไทยเป็นปัจจัยกระตุ้นใหม่ และมีศักยภาพที่จะอยู่ในระดับสูงจนถึง 1H26 ท่ามกลางปัจจัยด้านฤดูกาลและปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า FSSIA จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" (จาก "ถือ") โดยเน้นที่การเก็งกำไรระยะสั้นจากการฟื้นตัวของราคาหมู หุ้นซื้อขายที่ PE 9.6 เท่าสำหรับปี 2026
ณ วันที่ 10 ตุลาคม (ภายใต้ระยะเวลาปิดทำการซื้อขาย 30 วันก่อนผลประกอบการ 3Q25) บริษัทได้ซื้อหุ้นคืน 7.4 ล้านหุ้นในราคาเฉลี่ย 18.4 บาท โดยมีหุ้นเหลืออีก 77.6 ล้านหุ้นภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนที่จะสิ้นสุดในวันที่ 27 มีนาคม 2026