บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

CAZ ไตรมาส 3/68 ขาดทุนสุทธิ 391.22 ล้านบาท พลิกจากกำไร 9.11 ล้านบาทในปีก่อนหน้า รายได้จากการบริการลดลง 28.18% สาเหตุหลักจากการยุติสัญญากับลูกค้ารายหนึ่งและการปรับลดมูลค่าโครงการก่อสร้าง

ผลประกอบการที่น่าตกใจ

ในไตรมาส 3 ปี 2568, CAZ มีรายได้จากการบริการ 598.82 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 28.18% เมื่อเทียบกับ 833.81 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และที่สำคัญ บริษัทฯ ประสบกับผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ถึง (391.22) ล้านบาท ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากไตรมาส 3/2567 ที่มีกำไรสุทธิ 9.11 ล้านบาท

ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานที่ลดลงนี้มาจากการยุติสัญญากับลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การปรับลดมูลค่าโครงการก่อสร้าง นอกจากนี้ งานก่อสร้างบางโครงการได้ทยอยส่งมอบแล้วเสร็จ ในขณะที่โครงการใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้รายได้จากการบริการลดลง

ถึงแม้ว่ารายได้อื่นจะเพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายเศษโลหะและนั่งร้าน แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากการลดลงของรายได้จากการบริการได้ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการบริหารยังเพิ่มขึ้นจากเบี้ยปรับเงินเพิ่มของเงินภาษีที่จ่ายชำระล่าช้า และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่ถูกโอนย้ายมาจากโครงการที่ยุติสัญญา

วิเคราะห์สินทรัพย์และหนี้สิน

สินทรัพย์รวมของ CAZ ลดลง 19.51% จาก 2,860.43 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เป็น 2,302.29 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 โดยเฉพาะสินทรัพย์หมุนเวียน เช่น ลูกหนี้การค้าและสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นจากสัญญา

ในส่วนของหนี้สินรวม ลดลง 15.35% จาก 2,169.52 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เป็น 1,836.53 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 โดยหนี้สินหมุนเวียนลดลง แต่หนี้สินไม่หมุนเวียนกลับเพิ่มขึ้น

ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงอย่างมากถึง 30.85% จาก 690.91 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เป็น 465.77 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 เนื่องจากการขาดทุนจากการดำเนินงาน

อนาคตและความท้าทาย

ถึงแม้ว่า CAZ จะมีงานในมือ (Backlog) รวมมูลค่า 12,016.84 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 แต่บริษัทฯ ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการกระแสเงินสดและการชำระหนี้

บริษัทฯ ได้เจรจากับสถาบันการเงินและเจ้าหนี้การค้าเพื่อขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้ และเริ่มมีกระแสเงินสดเข้ามาเพื่อชำระหนี้สินจากการยุติสัญญากับลูกค้ารายหนึ่ง

CAZ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูผลประกอบการและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน การบริหารจัดการต้นทุน การแสวงหาโครงการใหม่ และการบริหารจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต