บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรสุทธิดิ่งลง 59.69% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียง 69.45 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่สูงขึ้นและการขยายกำลังการผลิต แม้รายได้รวม 1,770.96 ล้านบาทจะลดลง 8.17% แต่บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดและบริหารต้นทุนเพื่อความยั่งยืน

ผลประกอบการที่น่าผิดหวัง:

ในไตรมาส 3 ปี 2568 COCOCO มีรายได้รวม 1,770.96 ล้านบาท ลดลง 8.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 1.81% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 69.45 ล้านบาท ลดลงถึง 59.69% จากปีก่อนหน้า และลดลง 10.23% จากไตรมาสก่อนหน้า การลดลงนี้มีสาเหตุหลักจากรายได้จากการขายและบริการในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ ยังคงมีรายได้รวม 5,117.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง

วิเคราะห์ปัจจัยกระทบ:

อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 18.78% ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (24.80%) แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (17.10%) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 1.45% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 11.85% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การลดลงของกำไรสุทธิมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและการทดลองเดินเครื่องจักรใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายบุคลากรและการดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในองค์กร นอกจากนี้ ต้นทุนขายที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบมะพร้าวที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ

อนาคตและการปรับตัว:

ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 COCOCO มีสินทรัพย์รวม 7,992.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.75% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 และมีหนี้สินรวม 4,555.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.34% ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 6.33% ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 1.33 เท่า บริษัทฯ ได้รับอนุมัติสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจาก Philippine Economic Zone Authority (PEZA) สำหรับการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ และมุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศในภูมิภาคหลัก ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกา COCOCO ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการ ESG และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว