บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TURBO กำไรพุ่ง 371% ในไตรมาส 3/68! บริหารต้นทุนเยี่ยม หนุนผลงานโตกระโดด
P/E 10.03 YIELD 0.00 ราคา 1.56 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิโตแรง อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น
TURBO หรือ บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 สุดปัง! กำไรสุทธิพุ่งสูงถึง 125.7 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 371.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 38.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่น่าสนใจคือ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 3.43% ในไตรมาส 3 ปี 2567 เป็น 16.47% ในไตรมาสนี้
กำไรโตได้ยังไง: คุมต้นทุนอยู่หมัด ลดค่าใช้จ่าย
แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย 1.9% (YoY) เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อที่ระมัดระวังมากขึ้น แต่ การเติบโตของกำไร มาจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดย ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 8.7% (YoY) และ ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลงถึง 40.2% (YoY) นอกจากนี้ ต้นทุนทางการเงินยังลดลง 13.8% (YoY) อีกด้วย
สินเชื่อและหนี้เสีย: NIM เพิ่ม NPL ขยับขึ้นเล็กน้อย
บริษัทฯ มี ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) อยู่ที่ 20.0% สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 19.3% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของ อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (% Stage 3) อยู่ที่ 4.2% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.0% ในปีก่อนหน้า ขณะที่ อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (Credit Cost) ลดลง จาก 6.5% เป็น 5.3% และ ลูกหนี้สินเชื่อกู้ยืมและเช่าซื้อสุทธิลดลง 3.7% จากสิ้นปี 2567
ความเสี่ยงและโอกาส: เศรษฐกิจผันผวน แต่มีเงินทุนพร้อมลุย
ความเสี่ยง ที่สำคัญคือสภาวะเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อและการบริหารจัดการหนี้เสีย อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมี โอกาสในการเติบโต จากการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่รัดกุม ที่สำคัญคือ การเสนอขายหุ้น IPO ทำให้บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการขยายธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินได้
สรุป: TURBO แกร่งขึ้น พร้อมลุยตลาด
การเติบโตของกำไรสุทธิ ในไตรมาส 3 ปี 2568 เป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีขึ้น และการลดลงของต้นทุนทางการเงิน แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย แต่ การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรสุทธิ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นของบริษัท บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น จากการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและรองรับการเติบโตในอนาคต