บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

BH หรือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ทำกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 new record ที่ 2.04 พันล้านบาท (+10% q-q, +4% y-y) เป็นไปตามที่ FSSIA และ consensus คาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ที่สูงขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวทั้ง q-q และ y-y

รายได้รวมอยู่ที่ 6.51 พันล้านบาท (+8% q-q, +2% y-y) ซึ่งเป็นช่วง high season ของธุรกิจโรงพยาบาล โดยรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็น 67% หรือ 4.34 พันล้านบาท (+12% q-q, +3% y-y) นำโดยผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง (+10% y-y), เมียนมาร์ (+21% y-y) และบังคลาเทศ (+31% y-y) ขณะที่รายได้จากผู้ป่วยไทยอยู่ที่ 33% หรือ 2.15 พันล้านบาท (+1% q-q, -2% y-y) เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดตามฤดูกาลน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น record ที่ 53.0% (+0.5ppt q-q, +1.2ppt y-y) จากการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ แต่อัตราส่วน SG&A/Sales เพิ่มขึ้นเป็น 16.2% (+0.3ppt q-q, +0.6ppt y-y) เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไร EBITDA อยู่ที่ 41.5% (flat q-q, +0.8ppt y-y)

อัตราภาษีที่แท้จริงอยู่ที่ 18.5% ในไตรมาสนี้ ลดลง 0.8ppt q-q แต่เพิ่มขึ้น 1.0ppt y-y เนื่องจากการบันทึกผลประโยชน์ทางภาษี BOI ในไตรมาส 3 ปี 2567

กำไรหลัก 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 5.63 พันล้านบาท (-5% y-y) คิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรหลักทั้งปีของ FSSIA จากรายได้รวม 18.7 พันล้านบาท (-3% y-y) และอัตรากำไร EBITDA ที่ 40.7% (-0.2ppt y-y)

FSSIA คาดว่ากำไรในไตรมาส 4 ปี 2568 จะเติบโตขึ้นเล็กน้อย y-y จากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยต่างชาติ แต่จะลดลง q-q ตามฤดูกาล ดังนั้นจึงมองว่ามี upside จำกัดเพียง 1-2% สำหรับประมาณการกำไรหลักปี 2568 ที่ 7.42 พันล้านบาท (-5% y-y) อย่างไรก็ตามการกลับมาส่งต่อผู้ป่วย GOP ของรัฐบาลคูเวตมายังประเทศไทย อาจเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มปี 2569 และเป็น catalyst ในระยะสั้น

FSSIA ให้ราคาเป้าหมาย BH ที่ 193 บาท อิงจาก P/E ปี 2569 ที่ 20 เท่า หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ยการซื้อขายในอดีต 5 ปีของหุ้น ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินมูลค่าเป้าหมาย (-0.5SD) ของโรงพยาบาลขนาดใหญ่อื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ coverage

Vatcharut Vacharawongsith นักวิเคราะห์จาก FSSIA เป็นผู้ให้ข้อมูลและการวิเคราะห์นี้