https://aio.panphol.com/assets/images/community/11817_E472B6.png

STA กำไรทรุด! Q3/68 ขาดทุน 841.9 ล้านบาท พิษเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

P/E -100.00 YIELD 8.20 ราคา 12.20 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ: STA ไตรมาส 3/2568 รายได้วูบ กำไรดิ่ง จากผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมาตรการภาษีสหรัฐฯ

บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ขาดทุนสุทธิ 841.9 ล้านบาท พลิกจากกำไรในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและการให้บริการรวมที่ลดลง 30.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และลดลง 31.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เหลือ 21,574.0 ล้านบาท ปริมาณขายยางธรรมชาติที่ลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัว และราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสำคัญ

สถานการณ์เศรษฐกิจกดดัน: มาตรการภาษีสหรัฐฯ ฉุดตลาดโลก ราคายางผันผวน

มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดโลก ทำให้ผู้ซื้อระมัดระวังและชะลอคำสั่งซื้อ ราคายางในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงตั้งแต่ไตรมาสก่อนยังคงกดดันผลการดำเนินงานของ STA ในไตรมาสนี้ แม้บริษัทฯ จะยังคงรักษากระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ต่อเนื่อง โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่ 449.4 ล้านบาท และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ (Net D/E) ที่ 0.6 เท่า

เจาะลึกรายได้และกำไร: ยางธรรมชาติ-ถุงมือยาง รายได้ลด อัตรากำไรขั้นต้นหดตัว

  • รายได้ยางธรรมชาติ: ลดลง 37.7% QoQ และ 38.5% YoY จากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง
  • รายได้ถุงมือยาง: เพิ่มขึ้น 1.6% QoQ แต่ลดลง 5.1% YoY แม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลงตามภาวะการแข่งขันและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
  • กำไรขั้นต้น: อยู่ที่ 866.9 ล้านบาท ลดลง 36.4% QoQ และ 73.7% YoY อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 4.0% ลดลงจาก 4.4% ในไตรมาสก่อน และ 10.4% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A): ลดลง 15.5% QoQ และ 15.7% YoY หลักๆ จากค่าใช้จ่ายในการขายที่ลดลงตามปริมาณการส่งออกยางที่ลดลง
  • EBITDA: อยู่ที่ 449.4 ล้านบาท ลดลง 30.6% QoQ และ 76.1% YoY อัตรา EBITDA อยู่ที่ 2.1% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงจาก 5.9% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

สินทรัพย์-หนี้สิน: สินทรัพย์รวมลด หนี้สินลด สภาพคล่องดีขึ้น

ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 STA มีสินทรัพย์รวม 108,393.0 ล้านบาท ลดลง 17.4% จากสิ้นปี 2567 หลักๆ มาจากสินค้าคงเหลือที่ลดลงตามราคายางในตลาดโลกที่ปรับตัวลง หนี้สินรวมอยู่ที่ 41,465.4 ล้านบาท ลดลง 32.6% จากสิ้นปี 2567 หลักๆ มาจากการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net D/E) อยู่ที่ 0.55 เท่า ลดลงจาก 0.77 เท่า ณ สิ้นปี 2567 และอัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 2.38 เท่า ปรับตัวดีขึ้นจาก 1.62 เท่า ณ สิ้นปี 2567

โพสต์ล่าสุด