บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

Krungsri Securities (KSS) ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น SCGP เป็น "Reduce" พร้อมทั้งให้ราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2569 ที่ 17.5 บาท แม้กำไรปกติในไตรมาส 3/25 จะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่หากพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกและแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้นในอนาคต ราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าสะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวไปมากแล้ว

ผลประกอบการ Q3/25: กำไรพิเศษช่วยพยุง

SCGP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/25 ที่ 953 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ เช่น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX gain) กำไรปกติจะอยู่ที่ 998 ล้านบาท (+48% y-y, +1% q-q) ซึ่งสูงกว่าที่ KSS คาดการณ์ไว้ 4% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ต่ำกว่าคาดเนื่องจาก FX gain จากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม KSS มองว่า FX gain ไม่ใช่ผลการดำเนินงานหลักของบริษัท การเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน (y-y) มาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของ packaging paper (+5%) และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 250 bps จากต้นทุนกระดาษที่ลดลง

ปัจจัยกดดัน: การแข่งขันสูงและอุปทานใหม่

KSS คาดการณ์ว่าการแข่งขันที่สูงขึ้นจะยังคงกดดันผลการดำเนินงานของ SCGP ในไตรมาส 4/25 เนื่องจาก กำลังการผลิตใหม่ในอินโดนีเซีย บราซิล และจีน เร่งการผลิตมากขึ้น รวมถึงโรงงานผลิตในจีนบางส่วนกลับมาเปิดดำเนินการหลังปิดซ่อม ทำให้ อุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของสงครามการค้ายังเป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตามอง

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย: ลดน้ำหนักการลงทุน

KSS คงคำแนะนำ "Reduce" สำหรับ SCGP พร้อมทั้ง roll over ไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 17.5 บาท (จากเดิม 16.0 บาทสำหรับปี 2568) โดยมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวไปมากแล้ว และอาจมี downside risk จากการแข่งขันที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ถึงครึ่งแรกของปี 2569 ทั้งนี้ KSS ยังไม่ได้รวมดีล MYPAK เข้ามาในประมาณการ เนื่องจากยังรอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการบริหารจัดการ supply chain

วิธีคิดราคาเป้าหมาย

ราคาเป้าหมาย 17.5 บาท มาจากการประเมินมูลค่าด้วยวิธี WACC (Weighted Average Cost of Capital) ที่ 8% และ Long-Term Growth Rate ที่ 2%